ธ.ก.ส.ชี้พิษโควิดทำยอดปล่อยสินเชื่อ6เดือนต่ำสุดรอบ5ปี

ธ.ก.ส.ชี้พิษโควิดทำยอดปล่อยสินเชื่อ6เดือนต่ำสุดรอบ5ปี

ธ.ก.ส.เผยยอดปล่อยสินเชื่อรอบ 6 เดือนปีบัญชี64/65 ต่ำสุดรอบ3-5ปี โดยอยู่ที่ 9 พันล้านบาท หรือ 16% ของเป้าหมายทั้งปี ชี้ผลกระทบหลักจากโควิด-19 เชื่อการเปิดประเทศจะทำให้สินเชื่อตามเป้า

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารในรอบ 6 เดือนแรกของปีบัญชี 2564/65 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3-5 ปี เนื่องจาก สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง ทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ประมาณ 9 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 15.77% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 5.7 หมื่นล้านบาท

“ในช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เป็นผลจากการล็อกดาวน์ และการปิดประเทศทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้า ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้ภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรมปิดกิจการ จึงขาดผู้รับซื้อผลผลิต นอกจากนี้ รัฐยังมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้การขอสินเชื่อใหม่ลดลง”

อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่า ตลอดทั้งปีบัญชีดังกล่าว ยอดสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 5.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ขณะนี้ รัฐบาลได้ทำการเปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น และ ในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต จะต้องมีการลงทุนและขอสินเชื่อใหม่

 

“ตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ที่รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ก็คาดว่าดีมานด์ ความต้องการสินค้าเกษตรน่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากความต้องการบริโภคมากขึ้นของนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้เกษตรกรเริ่มกลับมาวางแผนการผลิตใหม่ และความต้องการสินเชื่อจะมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีบัญชีนี้ ดังนั้น เรายังคาดหวังว่า จนถึงสิ้นปีบัญชีนี้ สินเชื่อของธนาคารจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.7 หมื่นล้านบาท”

ส่วนหนี้เสียของธนาคาร ณ 30 ก.ย.นี้ อยู่ที่ 4.2% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีบัญชีที่แล้วที่อยู่ที่ 3.9%อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ณ สิ้นปีบัญชีนี้หนี้เสียของธนาคารจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 4%ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบของธนาคารอยู่ที่ 1.569 ล้านล้านบาท ยอดเงินฝากสะสมอยู่ที่ 1.784 ล้านล้านบาท โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์Basel IIอยู่ที่ 12.32%และมีกำไรสุทธิจำนวน1,461ล้านบาท

สำหรับการประเมินภาวะเศรษฐกิจเกษตรในช่วงไตรมาสที่3และ4คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.5 - 2.8% จากปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลดีต่อราคาสินค้าเกษตรและรายได้ในภาคเกษตร ทั้งปริมาณน้ำฝนที่อยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย แนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบกับครึ่งปีแรก และเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัว ส่งผลต่อความต้องการสินค้าเกษตรและการส่งออกที่เพิ่มขึ้นทั้งในการบริโภคและใช้ในอุตสาหกรรม ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 33.06%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อประกอบกับ สถานการณ์โควิด -19ที่ผ่อนคลาย การมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศสามารถฟื้นฟูและกลับมาเติบโตอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ซึ่งได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 56 ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานในลักษณะDuo Transformationคือการดำรงรูปแบบการดำเนินงานแบบธนาคารดั้งเดิม (Traditional Banking)เพื่อให้บริการลูกค้าที่ยังคุ้นเคยกับรูปแบบการบริการแบบเดิม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและในพื้นที่ชนบท ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนสู่การเป็นธนาคารดิจิทัล (Digital Banking)เพื่อรองรับสังคมยุคดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่น