ศบค.ลดพื้นที่แดงเข้ม-คลายล็อกรับเปิดประเทศ

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณา ผ่อนคลายกิจกรรมกิจการเพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้จะมีการปรับลดพื้นที่แดงเข้มจาก 23 เหลือ 7 จังหวัด

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอนปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรอ ศบค.ชุดใหญ่ โดยระหว่างทางเดินเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรีนายกได้ทักทายสื่อมวลชนที่มารอต้อนรับและกล่าวสั้นๆเพียงว่า "สวัสดีจ้ะ"

โดย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเตรียม ความพร้อมเรื่องของมาตรการการรองรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัว ทุกคนทราบดีว่าด้วยนั้นกลับเป็นเรื่องที่สำคัญต่อประเทศ เนื่องจาก ขณะนี้ต้องดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับให้มีการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนโดยเฉพาะในช่วงใกล้ปีใหม่

ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าระหว่างที่นายกรัฐมนตรีอยู่ในห้องประชุมนั้น มีอาการอ่อนเพลีย คาดว่าจะเป็นผลหลัง รับวัคซีน Booster ไฟเซอร์ เมื่อวานนี้

ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและนายแพทย์อุดมคชินทรที่ปรึกษาศบค. กล่าวยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความพร้อมในการเปิดประเทศ

ขณะที่วาระที่น่าสนใจในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศปก.ศบค. จะเสนอการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการเพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้จะมีการปรับลดโซนสี พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มข้น หรือแดงเข้ม จาก 23 จังหวัดเหลือ 7 จังหวัดประกอบด้วย ยะลาปัตตานี นราธิวาส สงขลา นครศรีธรรมราช จันทบุรี และตาก 

ขณะที่ศบค. ส่วนหน้า ได้เตรียมรายงาน ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเตรียมเสนอ 5 แนวทาง ได้แก่ การป้องกัน การควบคุม การรักษา การเยียวยา และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตามต้องจับตา การติดเชื้อภายในประเทศ แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ลดลง และมีการปรับลดโซนสีเหลือเพียง 7 จังหวัด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และเตียงอยู่ในขั้นวิกฤต แต่กลับไม่ถูกจัดให้อยู่ในโซนสีแดงเข้ม