TTB - ตื่นจากจำศีล (วันที่ 25 ตุลาคม 2564)

TTB - ตื่นจากจำศีล (วันที่ 25 ตุลาคม 2564)

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21 ขึ้น 8% หลังรายงานผลประกอบการดีกว่าคาดใน 3Q21 เราคาดแนวโน้มการเติบโตของ TTB จะแข็งแกร่งหนุนจากการขยายพอร์ตสินเชื่อไปพร้อมกับการซินเนอร์ยีด้านต้นทุนหลังการควบรวมธนาคารในปีหน้า

เราคงคำแนะนำ ซื้อ TTB ราคาเป้าหมายใหม่ 1.6 บาท

                                                 

TTB ตั้งเป้าเร่งการเติบโตของสินเชื่อ

ฝ่ายบริหารคงเป้าหมายทางการเงินของปี 2021 ในการประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งรวมถึงพอต์ทสินเชื่อที่ทรงตัว, NIM ใกล้เคียงปีก่อนที่ 3%, สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ (C/I ratio) ที่ 40% ปลาย (47-49%), สัดส่วน NPL ต่ำกว่า 3.6% และต้นทุนความเสี่ยงเครดิต (credit cost) ที่ 160-180bps อย่างไรก็ดี พอร์ตสินเชื่อได้หดตัว 2.4% ในช่วง 9m21 เนื่องจากนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุมขึ้นในช่วงเศรษฐกิจขาลง แต่ฝ่ายบริหารเปิดเผยว่าจะเร่งการขยายตัวตั้งแต่ 4Q21 สะท้อนว่าโมเมนการเติบโตของสินเชื่อจะดีขึ้นในปลาย 2021 โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่มีมาตรการล็อคดาวน์และผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อในตลาดรถยนต์

 

 

 

สินเชื่อในมาตรการบรรเทาผลกระทบลดลงแม้ว่าจะมีการงดชำระหนี้

ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ผ่านมาจาก 2.89% เป็น 2.98% ขณะที่ TTB รายงานว่าสัดส่วนสินเชื่อในมาตรการบรรเทาผลกระทบยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 14% เป็น 12% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด แม้จะมีมาตรการงดชำระหนี้จากธปท. 2 เดือนในก.ค. - ส.ค. 2021 สะท้อนว่าผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิดยังอยู่ในระดับที่บริหารได้ และแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์จะฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศและธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินงานเต็มที่อีกครั้ง

 

Valuation หุ้นยังถูกมากเป็นโอกาสในการลงทุน

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21 ขึ้น 8% หลังผลประกอบการใน 3Q21 ดีกว่าคาดจากการประหยัดต้นทุนและการตั้งสำรอง เราปรับคาดการณ์การตั้งสำรองลง 4% จาก 2.3 หมื่นลบ. เป็น 2.2 หมื่นลบ. หรือเทียบเท่า credit cost ที่ 160bps จาก 170bps ก่อนหน้านี้ รวมถึงเราปรับคาดการณ์ต้นทุนลงเล็กน้อย 2% หลังการประหยัดต้นทุนที่ดีหลังการควบรวมธนาคาร เราคงคำแนะนำ ซื้อ TTB และปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็นสิ้นปี 2022 ที่ 1.6 บาท อ้างอิง PBV 0.7x (-1SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว)