“เอสซีจี” รุกธุรกิจEVตอบโจทย์คู่ค้า ตั้งเป้าสู่ Net Zero ปี 2593

“เอสซีจี” รุกธุรกิจEVตอบโจทย์คู่ค้า ตั้งเป้าสู่ Net Zero ปี 2593

“เอสซีจี” รุกธุร EV ตอบโจทย์คู่ค้า เร่งพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสีเขียว ตั้งเป้าสู่ Net Zero ปี 2593 ดันบริการ EV Solution Platform โซลูชันเพื่อธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า โดดโชว์นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนในงาน ASEW Virtual Edition

นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความท้ายทายด้านการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จึงพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และมุ่งเน้นการให้บริการและโซลูชันที่ครบวงจรตอบโจทย์ทั้งความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทอย่างชัดเจนผ่านการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสีเขียวเพื่อรองรับการให้บริการ สินค้า พร้อมโซลูชันครบวงจรให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงทีจากสถานการณ์ต่างๆ มองหาสินค้าและบริการเพื่ออนาคต โดยเฉพาะเทคโนโลยีและพลังงานสีเขียว ตามนโยบายของ เอสซีจี ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ

โดยตั้งเป้าสู่องค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ที่ปัจจุบันมีบริการ EV Solution Platform โซลูชันเพื่อธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ที่ให้บริการแบบครบวงจรภายใต้แนวคิด Smart Clean Mobility ที่จะช่วยให้พันธมิตรดำเนินธุรกิจได้โดยไม่ต้องกังวลใจในราคาที่เหมาะสม โดยแพลตฟอร์มครอบคลุม 3 ด้าน คือ

1. การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าคำนึงถึงความปลอดภัยของแบตเตอรี่

2. ส่งมอบโซลูชัน อาทิ การบริการบำรุงรักษาและอะไหล่ การบริการด้านสถานีชาร์จ การบริการปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาแพลตฟอร์มไอที

3. โซลูชันด้านการเงินที่หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ได้แก่ การบริการเช่า แพ็คเกจการขาย การบริการขนส่งสำหรับสินค้าหรือพนักงาน พร้อมประกันภัยอุบัติเหตุรถยนต์ประเภท 1 และประกันภัยความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เพื่อตอบสนองแนวโน้มการใช้พลังงานแห่งอนาคต และให้ภาคอุตสาหกรรมไทยปรับตัวเดินหน้าพัฒนาธุรกิจสู่การตอบโจทย์ด้านพลังงานสีเขียว จึงร่วมกับทุกภาครัฐและเอกชน จัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2021 (ASEW)-Virtual Edition มหกรรมอุตสาหกรรมด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีปั้มวาล์ว ครั้งสำคัญของภูมิภาคอาเซียน บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดย เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมโชว์นวัตกรรมด้าน EV ด้วย ระหว่างวันที่ 14-16 ต.ค.2564 เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การเชื่อมโยงเครือข่าย การสร้างโอกาสทางธุรกิจ ของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ซื้อ ในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการประชุมสัมมนาออนไลน์ Virtual Conference จากองค์กรชั้นนำหลากหลายประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม และ iEVTech 2021 

“เอสซีจี” รุกธุรกิจEVตอบโจทย์คู่ค้า ตั้งเป้าสู่ Net Zero ปี 2593

สำหรับ การจัดประชุมนานาชาติเฉพาะด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการร่วมมือกับทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย การเปิด Virtual Marketplace เพื่อเป็นพื้นที่พบปะซื้อขายสินค้าผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมสนับสนุนให้ผู้ประกอบไทยได้มีโอกาสเรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก รวมถึงการบริการนัดหมายล่วงหน้า (Pre-Match) โปรแกรมการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ซื้อ เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเจรจาธุรกิจ สามารถเข้าร่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น 

ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต้องการเพิ่มการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็น 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในปี 2573 โดยวางเป้าหมายใหม่ แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม ในปี 2568 ที่ 1,055,000 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 620,000 คัน รถบัส รถบรรทุก 31,000 คัน และปี 2578 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 18.41 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 8.62 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 9.33 ล้านคัน รถบัส รถบรรทุก 458,000 คัน