พัทยาเร่งปรับภูมิทัศน์ชายหาด หนุนท่องเที่ยว EEC

พัทยาเร่งปรับภูมิทัศน์ชายหาด หนุนท่องเที่ยว EEC

นายกเมืองพัทยา “สนธยา คุณปลื้ม” เปิดกว้างรับความคิดเห็นจากภาคประชาสังคม ร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์หาดพัทยาสู่ระดับโลก นำทีมลงพื้นที่ดูปฏิบัติการจริง ย้ำมุ่งอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวถึง 75%

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ประชุมร่วมกับ เครือข่ายภาคประชาสังคม ประกอบด้วย กลุ่มบิ๊กทรีส์ กลุ่มเครือข่ายต้นไม้ในเมือง และสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความร่วมมือใน “โครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยา” ยกระดับการท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิต ควบคู่กับการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม    
    

นายสนธยา กล่าวว่า โครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดเมืองพัทยา ระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตรตามแนวทาง “NEO Pattaya” จะช่วยส่งเสริมให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รองรับการขยายตัวของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งชาวเมืองพัทยาทุกคนจะได้ประโยชน์เต็มที่ โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้เกิดความสมดุลยั่งยืนระหว่างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะดึงดูดการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมา ทำให้เมืองพัทยากลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 “โครงการปรับภูมิทัศน์ครั้งนี้จะดำเนินควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุล ยั่งยืน และคำนึงถึงคุณค่าสิ่งแวดล้อม ทั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้พื้นถิ่น เช่น ต้นนนทรี ต้นหูกวาง ซึ่งเป็นต้นไม้ดั้งเดิมร้อยละ 75 ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ดังนั้น ความร่วมมือกับภาคประชาสังคมจะช่วยให้การทำงานของเมืองพัทยาไม่ได้ใช้หลักวิศวกรรมอย่างเดียว แต่เราเพิ่มมิติทางด้านรุกขกรรมด้วย ช่วยให้โครงการพัฒนาชายหาดสมบูรณ์แบบมากขึ้น”


สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่า ทางเมืองพัทยาตัดต้นหูกวางทั้งหมดแล้วปลูกต้นปาล์มหรือต้นอินทผาลัมแทนนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงทำให้เกิดความเข้าใจผิดให้กับโครงการนี้โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี นอกจากนั้น ยังนำภาพแบบจำลองที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงไปเผยแพร่ ขณะนี้จึงให้มีการสื่อสารและปรับปรุงภาพแบบจำลองใหม่ให้ถูกต้อง โดยยืนยันว่า “ชายหาดพัทยาปรับภูมิทัศน์โดยรักษาต้นไม้ท้องถิ่นเดิมเอาไว้ เราตัดออกเพียงบางส่วนและใช้วิธีล้อม ย้าย รวมถึงปลูกเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น”
 

นายสันติ โอภาสปกรณ์กิจ ผู้แทนกลุ่มบิ๊กทรีส์ กล่าวว่า ทางกลุ่มมีประสบการณ์ในการดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่หลายพื้นที่และมีความร่วมมือกับต่างประเทศ พร้อมสนับสนุนการฝึกอบรมให้ความรู้ทางด้านรุกขกรรมและภูมิสถาปัตย์แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา

นางสาวช่อผกา วิริยานนท์ กลุ่มเครือข่ายต้นไม้ในเมือง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการออกแบบภูมิทัศน์ที่คำนึงถึงต้นไม้เดิมและต้นใม้ใหญ่ เพราะปัจจุบันทั่วโลกหันมาสนใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของเมืองด้วย

นายนำชัย แสนสุภา นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย กล่าวว่า อยากเห็นพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนระดับโลก ที่ผ่านมาเห็นแค่ภาพ Perspective ภาพเดียว แต่เมื่อได้มาเห็นพื้นที่จริงๆ แล้วชายหาดพัทยายังคงมีต้นไม้ใหญ่และต้นไม้พื้นที่ถิ่นจึงเชื่อว่าอนาคตโครงการพัฒนา เช่นหาดจอมเทียนต่อไปก็น่าจะก้าวไปสู่ระดับโลกได้

ทั้งนี้ นายกเมืองพัทยาพร้อมด้วยผู้บริหารเมืองพัทยาได้นำเครือข่ายภาคประชาสังคมลงพื้นที่หาดพัทยาเพื่อดูการทำงานของโครงการจริงๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีมาก โดย นางอรวรรณ สุขอนันต์วงศ์ นายกสมาคมชุมชนเมืองพัทยา กล่าวว่า ชาวเมืองพัทยา 60-70% เห็นด้วยกับโครงการปรับภูมิทัศน์ครั้งนี้ เพราะสามารถตอบโจทย์การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ส่งเสริมการทำมาหากินของประชาชน โดยเฉพาะหลังเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ก็อยากให้ตัดไม้เพียงบางส่วนและอนุรักษ์เอาไว้ควบคู่กันไปด้วย

การปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดของเมืองพัทยา เป็นโฉมใหม่ในการดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเห็นพัทยาในรูปแบบใหม่ๆ มีที่จอดรถสะดวกทั้งคนไทยและต่างชาติ ส่วนเรื่องต้นไม้ขอให้เป็นต้นที่แข็งแรงปลอดภัย มองแล้วเกิดความสวยงามเจริญหูเจริญตาทั้งประชาชนและร้านค้าก็พร้อมจะสนับสนุน นางอรวรรณกล่าว