Sideways Down (21 พ.ค.64)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวรับ 1550 / 1538 จุด แนวต้าน 1565 / 1570 จุด แนะนำ เก็งกำไร HANA RS BEC ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณขาย หากหลุดแนวรับ 1550 จุด นักลงทุนยังคงให้ความสนใจต่อหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็กและกลางมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ จากผจก. กองทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกน้อยลง คงปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ รายงานภาคการผลิต/บริการเบื้องต้นเดือน พ.ค. ของ USA, EU, UK, Japan ส่วนใหญ่คาดภาคการผลิตลดลง แต่ภาคบริการปรับตัวดีขึ้น (+กลุ่ม Cyclical Plays หากออกมาดีกว่าคาด) และดุลการค้าไทยเดือน เม.ย. คาดเกินดุลลดลง จากนำเข้าเพิ่มขึ้น

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

        - FTSE รายงานการทบทวนรายไตรมาสวันนี้ คาดเพิ่ม SCGP โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 มิ.ย.

        - ศบค. ชุดใหญ่ประชุมวันนี้ คาดขยายพ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน เพื่อควบคุมการระบาด

        - Opportunity day วันนี้ IRPC JUBILE NVD GGC BPP BANPU HANA

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

USA-นายกฯ เกาหลีใต้เยือนไบเดนที่ White House / EU-รมว. ไฟแนนซ์และผู้ว่าธนาคารกลางประชุมจนถึงวันที่ 22 พ.ค. / รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน พ.ค. ของ Japan (คาด 53.3/48 Vs เดือน เม.ย. 53.6/49.5), EU (คาด 62.5/52.3 Vs เดือน เม.ย. 62.9/50.5), USA (คาด 60.2/64.5 Vs เดือน เม.ย. 60.5/64.7), UK (คาด 60.5/62 Vs เดือน เม.ย. 60.9/61) / ไทย-ดุลการค้าเดือน เม.ย. คาดเกินดุล +USD345mn (Vs เดือน มี.ค. +USD711mn), ส่งออก +9.4% YoY (Vs เดือน มี.ค. +8.47% YoY), นำเข้า +22.6% YoY (Vs เดือน มี.ค. +14.12% YoY) / USA-Existing Home Sales เดือน เม.ย. คาด +2% MoM (Vs เดือน มี.ค. -3.7% MoM)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในภาคเช้าและร่วงลงในภาคบ่าย กรอบ 1554.54-1568.72 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 1554.54 จุด -7.70 จุด วอลุ่ม 9.0 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเหล็ก -4.19% พลังงานและสาธารณูปโภค -1.16% ธุรกิจการเกษตร -1.13% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -0.98% หุ้นบวก >4% XO ADD BEC THCOM CHG STPI RS INGRS KOOL NRF PROS TH FORTH SK ACG WGE CHO TAKUNI หุ้นลบ >4% PTL ECL KGI CFRESH DIMET PERM SCI SAAM AS ML AJ TSTH

+ ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกวันแรก หลังร่วง 3 วัน DJ +0.55% (+188.11 จุด) S&P500 +1.06% Nasdaq +1.77% รับข่าวบวก ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19 เดือน มี.ค. 2020 เป็น 444k (Vs คาด 452k และสัปดาห์ก่อน 478k) และการรีบาวด์ของ Bitcoin ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบล็อกเชน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก DAX +1.7% CAC40 +1.29% FTSE +1% นำขึ้นโดยกลุ่มเทคโนโลยี รับข่าวการควบรวมกิจการธุรกิจผลิตชิพ ST Microelectronics ของฝรั่งเศส-อิตาลี เสนอซื้อบริษัท นอร์ดิค เซมิคอนดักเตอร์

+/- น้ำมันดิบร่วงต่อ ส่วนทองขยับขึ้นเล็กน้อย: ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อเป็นวันที่สาม WTI -USD1.41 ปิดที่ USD61.94/บาร์เรล Brent -USD1.55 ปิดที่ USD65.11/บาร์เรล กังวลอิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบรอบใหม่ หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน มีความคืบหน้าและคาดว่าจะยกเลิกคว่ำบาตรส่งออกน้ำมันของอิหร่านในเร็ว ๆ นี้ ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย +USD0.50 ปิดที่ USD1,883.90/ออนซ์ จากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ

ประเด็นสำคัญ

+ USA: Initial Jobless Claims ต่ำกว่าคาดเป็น 444k (Vs คาด 452k และสัปดาห์ก่อน 478k) ต่ำสุดตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19 ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2020 จากการเริ่มทยอยเปิดธุรกิจ หลังการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์

+ รถยนต์: สภาอุตสาหกรรม เผยยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน เม.ย. 2021 ส่งออกได้ 52,880 คัน เพิ่มขึ้น 160.16% YoY เนื่องจากฐานต่ำปีที่แล้วที่มีการล็อกดาวน์

+ Sinovac: องค์การเภสัช เผยได้รับมอบวัคซีน COVID-19 ของซิโนแวก จากประเทศจีนเพิ่มอีก 1.5 ล้านโดส เมื่อวานนี้ และภายในเดือน มิ.ย. นี้จะนำเข้ามาอีก 3 ล้านโดส

+/- ศบค.ชุดใหญ่: ประชุมวันนี้คาดว่าจะมีการขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไปเป็นสิ้นเดือน มิ.ย. จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

- Germany: PPI เดือน เม.ย. พุ่งขึ้นเกินคาดเป็น +5.2% YoY (Vs คาด +5.1% YoY และเดือน มี.ค. 3.7% YoY )

+ Japan: Reuter Tankan พ.ค. สูงขึ้นและดีกว่าคาดเป็น 21 (Vs คาด 10 และเดือน เม.ย. 13) สูงสุดรอบ 2 ปี จากแนวโน้มส่งออกฟื้นตัว จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับสูงขึ้น

- การเมือง: สภาผู้แทนฯ จะเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค. - 18 ก.ย. 2021 โดยจะพิจารณานัดแรกในวันที่ 27 - 28 พ.ค. พ.ร.ก. ฟื้นฟูธุรกิจ จาก COVID-19 2 ฉบับที่ครม. บังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว และวันที่ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย. พิจารณาพ.ร.บ. งบประมาณปี 2022 วาระแรก

- ตลาดหลักทรัพย์ฯ: ประกาศหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับซื้อขายระหว่างวันที่ 21 พ.ค. - 10 มิ.ย. ได้แก่ TH (ระดับ 1) และ XPG, XPG-W4 (ระดับ 3)

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: AH DOHOME KCE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: HANA RS BEC

Derivatives: รอเปิด Short S50M21 เก็งกำไรช่วงบ่าย หากฟื้นตัวไม่พ้นโซน 940 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)