แอสเซทไวส์แก้เกมตลาดหด! ชู‘เคฟ’เรือธงลุยแคมปัสคอนโด

แอสเซทไวส์แก้เกมตลาดหด!  ชู‘เคฟ’เรือธงลุยแคมปัสคอนโด

“แคมปัสคอนโด” เป็นอีกโอกาสสำคัญจากกลุ่มผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ตลาดคอนโดใกล้สถานศึกษาจึงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีทั้งในแง่ “มูลค่า” ที่เพิ่มขึ้น และ “ค่าเช่า” ที่สม่ำเสมอ

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แคมปัสคอนโดเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง แต่ก็เต็มไปด้วยความท้าทาย! เพราะมีคู่แข่งรายใหญ่ จากดีมานด์ที่มีต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลัก นักศึกษา ผู้ปกครอง คนทำงานในพื้นที่ รวมไปถึงนักลงทุน ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งในการเลือกซื้อคอนโดเพราะต้องการความสะดวกในการเดินทาง ปลอดภัย ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าอพาร์ทเม้นท์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ดีมานด์สูงทั้งเช่าและซื้อ

"ข้อดีคอนโดมหาวิทยาลัยคือมีดีมานด์ใหม่เข้ามาทุกปี อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีอยู่ที่ 40,000 คนเข้ามาหาที่พัก ผลตอบแทนค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ 6-10% ขึ้นอยู่กับทำเล ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การลงทุนซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองแต่ความยากในการทำตลาด คือ การหา ทำเล ที่จะต้องอยู่ใกล้มาหาวิทยาลัย ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ดินหายากทุกที่"

ทั้งนี้ ตามแผนธุรกิจของแอสเซทไวส์ ในปีนี้ เตรียมเปิด 6 โครงการใหม่ เป็นแนวสูง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ เคฟ ศาลายา, โมดิซ ไรห์ม คลาวด์, แอทโมซ บางนา, เคฟ เอวา, โมดิซ ศรีราชา และโครงการแนวราบ 1 โครงการ บ้านภูริปุรี โฮมออฟฟิศ ลาดพร้าว 41 รวมมูลค่า 10,850 ล้านบาทโดยจะเป็น “แคมปัสคอนโด” 2 โครงการ ได้แก่ เคฟ ศาลายา มูลค่า 1,156 ล้านบาท จำนวน 588 ยูนิต เปิดตัวไตรมาสแรกนี้ และ เคฟ เอวา มูลค่า 2,366 ล้านบาท จำนวน 1,269 ยูนิต เปิดตัวไตรมาส 3

“เคฟ” ถูกวางให้เป็นแบรนด์เรือธงในการผลักดันยอดขายให้กับแอสเซทไวส์ในปีนี้

“แบรนด์เคฟ จะได้เปรียบในแง่ของการที่สามารถปล่อยปล่อยเช่าได้ ซึ่งเป็นแรงเสริมพิเศษที่เข้ามาทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจซื้อให้ลูกหลาน เพราะให้ผลตอบแทนที่ดี เป็นคอนโดราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับทำเล ในย่านพระราม 4 ต้นทุนการซื้ออยู่ 1.6-1.7 ล้านบาท สามารถปล่อยเช่าได้ 8,000-10,000 บาทต่อเดือนทำให้คนสนใจเข้ามาซื้อลงทุนด้วย”

กรมเชษฐ์ ระบุว่า ท่ามกลางตลาดคอนโดในกรุงเทพฯ หดตัว และการแข่งขันที่รุนแรงบริษัทจึงเลือกที่จะทำโปรเจคโลว์ไรส์ และกระจายทำเลออกนอกโซนซีบีดี เพื่อหนีการแข่งขันสงครามราคาและค้นหาเรียลดีมานด์ใหม่ ภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ นั่นคือ โมดิซ (MODIZ) แบรนด์คอนโดคนเมือง ที่มีความโดดเด่นหรูหราสไตล์โมเดิร์น เน้นเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกเกาะแนวรถไฟฟ้า ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการความสะดวก

แอทโมซ (ATMOZ) แบรนด์คอนโดสไตล์รีสอร์ท ภายใต้แนวคิด “Urban Refresh” มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง สวนและสระขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย รองรับกลุ่มคนทำงานที่ต้องการบรรยากาศการพักผ่อน และเรือธง เคฟ (KAVE) แบรนด์คอนโดใกล้สถานศึกษา หรือ แคมปัสคอนโด ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มีการออกแบบดีไซน์พื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้รองรับทุกไลฟ์สไตล์และความสนใจของคนรุ่นใหม่ด้วยการออกแบบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์วัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ใกล้มหาวิทยาลัยในระยะเดินได้ ดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางเหมาะกับการใช้ชีวิตนักศึกษา อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โคเวิร์กกิ้ง สเปซ ห้องประชุม เธียเตอร์รูม เป็นต้น

“แบรนด์! มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมาย เราเน้นการทำแบรนด์ที่เฉพาะเจาะกลุ่มลูกค้า ซึ่งลูกค้าแต่ละกลุ่มมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดี การสร้างแบรนด์ถือเป็นการเพิ่มแวลูให้กับสินค้ามากขึ้นสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ซื้อ สามารถโชว์เพื่อได้ว่าซื้อคอนโดที่มีแบรนด์ เป็นแวลูที่แฝงมา และมีผลมากกว่าราคาต่อตารางเมตร ถือจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบคู่แข่งนอกเหนือจากเรื่องราคาที่จับต้องได้”

ก้าวย่างสู่บริษัทมหาชนของแอสเซทไวส์ เป็น The NEXT Paradigm ในการเคลื่อนทัพธุรกิจอสังหาฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง