ยังขาดปัจจัยใหม่

ตลาดหุ้นวานนี้พลิกปิดปรับตัวลงราว 4.5 จุด จากระหว่างวันขึ้นไปบวกสูงกว่า 10 จุด
โดยตลาดหุ้นภายในประเทศมีแรงขายทำกำไรในช่วงบ่าย หลังจากขยับเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด ประกอบกับ กนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามคาด ซึ่งไม่สร้างเซอร์ไพรส์ทางบวกให้กับนักลงทุน ประกอบกับดัชนียังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,481.75 จุด -4.50 จุด -0.30% มูลค่าการซื้อขาย 79,485 ลบ. ต่างชาติ -3,109.93 ลบ. TFEX -13,392 สัญญา ตราสารหนี้ -360 ล
ปัจจัยบวก
+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 36.12 จุด +0.12% ขานรับประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทอัลฟาเบท รวมทั้งตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์
+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 93 เซนต์ +1.7% ปิดที่ 55.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
+นักวิเคราะห์คาดจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่ม 50,000 ตำแหน่งในม.ค. หลังทรุดตัวในธ.ค.
+ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐในเดือนม.ค. พุ่งแตะ 58.3 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบเกือบ 6 ปี สอดคล้องกับ ISM ที่เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐในเดือนม.ค.พุ่งสูงสุดรอบเกือบ 2 ปี
+กกร.เสนอรัฐตั้งทีมวัคซีน ระบุเป็นวาระแห่งชาติพร้อมกระจายให้ ปชช.ทั่วถึงเพียงพอ
+/- กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
ปัจจัยลบ
-ทั่วโลกติดเชื้อโควิดทะลุ 104,400,000 ราย ตายกว่า 2,265,000 ราย
-การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด 4Q63 ที่อยู่ที่ 47.3 ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 ลดจาก 47.4 ใน 3Q63 และลดจาก 51.1 ใน 4Q62 เนื่องจากโควิด-19 ระลอกใหม่ทำให้จำนวนลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกำลังซื้อลดลง ความถี่ในการซื้อลดลง ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นจากการดูแลความปลอดภัยของลูกค้าและ พนักงาน
+/- เงินบาทเปิดตลาด ‘ทรงตัว’ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์หลังธปท.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดย Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศยังคงไหลออกต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,470-1,490 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ผลดีจากนโยบายไบเดน : BGRIM GPSC EA RATCH BCPG
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการเราชนะ : TNP KK CPALL BJC MAKRO
• คาดผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นและกลุ่มโรงไฟฟ้าจะปรับตัวดีขึ้น : PTTGC SPRC TOP BGRIM BCP IRPC
หุ้นรายงานพิเศษ
XO
“ซื้อ” ราคาเหมาะสม 15.00 บาท
•คาดว่ารายได้ 4Q63 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนสู่ 320 ลบ. ลดลง 7% QoQ เนื่องจากอุปทานเรือขนส่งขาดแคลน (กระทบรายได้บริษัทราว 3% จากปกติที่ระดับ 1%) ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวเล็กน้อยสู่ 41-42% จากระดับ 42.14% ในไตรมาสก่อน ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิราว 80-85 ลบ.หดตัว 12-16%QoQ แต่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อน
•ปรับเพิ่มกำไรปี 63 และ 64 จาก 242 ลบ. และ 253 ลบ.สู่ 317 ลบ. และ 336 ลบ.เติบโต 130% และ 6% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากการแพร่ระบาดของ COVID รอบ 2 ในยุโรป นอกจากนี้บริษัทมีการจ่ายค่า Listing fee ในประเทศแถบยุโรปเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าเพิ่มขึ้น หากกลยุทธ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จจะปรับใช้กับภูมิภาคอื่นเพิ่มเติม ด้านต้นทุนการผลิตบริษัทได้ล็อกราคาน้ำตาล กระเทียม และพริกไว้จนถึงปลายปี 64 ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับ 40-42% ได้เช่นเดียวกับปี 63
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ XO เนื่องจากผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งมีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ทั้งเงินสดจากการดำเนินงานและเงินสดจากการใช้สิทธิ์ warrant ขณะที่ยังไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ ทั้งนี้เราคาดหวังปันผลที่ 4-5%
หุ้นมีข่าว
(+) FORTH (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus - บาท) กางแผนปี 64 ตั้งเป้าโกยรายได้ 8,000 ล้านบาท โต 10% ตุนแบ็กล็อก 2,800 ล้านบาท บุ๊กรายได้ปีนี้ทั้งหมด จ่อประมูลงานใหม่ 9,000 ล้านบาท คาดหวังได้งาน 50% ทุ่ม 300-400 ล้านบาท ลุยขยายตู้ขายน้ำอัตโนมัติ 1,000 ตู้ ภายในสิ้นปี 64 (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) SABUY (Bloomberg Consensus - บาท) “สบาย เทคโนโลยี” เตรียมดัน “เวนดิ้ง พลัส”(VDP) เข้าตลาดหุ้นภายใน 3 ปี ตั้งเป้าปี 64 ขยายตู้ขายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มเป็น 12,000 ตู้ หนุนรายได้ VDP โตไม่ต่ำกว่า 50% และพลิกมีกำไร ล่าสุดเปิดตัวน้ำดื่มลายลิขสิทธิ์โดราเอมอน หวังกวาดยอดขาย 4 ล้านขวด ในปี 64 พร้อมทุ่มงบ 200 ล้านบาท ซื้อกิจการและเข้าร่วมลงทุน (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.30 บาท) เตรียมเปิดตัวพันธมิตรลุยธุรกิจกัญชงภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หวังโกยรายได้เข้าพอร์ตเพิ่ม พร้อมดีลขาย Plant Based Food ในร้านโมเดิร์นเทรด ดันยอดขายรวมแตะ 3,000 ล้านบาท มองโอกาสเติบโตสูงตามเทรนด์ E-commerce ฟากโบรกผลงานทำนิวไฮทุกไตรมาสในปี 2564 อัพเป้าใหม่ 10 บาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TSR (Bloomberg Consensus 4.62 บาท) รับอานิสงส์น้ำประปาเค็ม ดันยอดขายเครื่องกรองน้ำพุ่ง ระบุมีสต็อกสินค้าเพียงพอรองรับความต้องการ ด้านธุรกิจ Alpine โตต่อเนื่องลูกค้าร้านค่าเฟ่-อาหารป้อนออเดอร์ วางเป้ายอดขายปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่มั่นใจยอดขายรวมทั้งปีโต 10-15% (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตา
ในประเทศ
จับตาผลประกอบการบจ.ส่งงบการเงินปี 63
16-18 ก.พ. อภิปรายไม่ไว้วางใจ
20 ก.พ. ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
1 มี.ค. กำหนดวันสุดท้ายบจ.ส่งงบปี 63 กรณีไม่ส่ง Q4
ต่างประเทศ
4 ก.พ. อียู เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมน.การเงิน
สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.
5 ก.พ. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.
7 ก.พ. จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนม.ค.
8 ก.พ. ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค.
9 ก.พ. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนธ.ค.
10 ก.พ. จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.
สหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.







