WHA อัพเกรด4 ธุรกิจหลักรับตลาดฟื้นหลังโควิด

WHA อัพเกรด4 ธุรกิจหลักรับตลาดฟื้นหลังโควิด

WHA เปิดแผนธุรกิจปี 2564 มุ่งพัฒนาธุรกิจ 4 กลุ่มให้พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างราบรื่น ตั้งเป้ารายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติเพิ่มขึ้น 30% พร้อมทุ่มงบลงทุน 5 ปี 5.6 หมื่นล้าน

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจปีนี้อยู่ในทิศทางที่ดี แต่ยังต้องดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ บริษัทพร้อมนำเสนอโครงการใหม่ๆที่กำลังจะแล้วเสร็จ เตรียมรองรับการฟื้นตัวของตลาดในเร็วๆนี้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีผลประกอบการที่ดี 

บริษัทคาดว่ารายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติ จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% จากปีก่อน ตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงาน อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่กว่า 35% และคาดหวังการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนช่วงปี 2564 -2568 อยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท ภายใต้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1.5 เท่า

ทั้งนี้ในปี 2563 บริษัทาดว่ารายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติในปี 2563 จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน โดยมีมูลค่าสินทรัพย์โดยรวม 8.3 หมื่นล้านบาท 

สำหรับแผนธุรกิจปี 2564 บริษัทยังมุ่งขับเคลื่อน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งแสวงหาลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เน้นการเพิ่มมูลค่าให้การบริการผ่านการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ตลอดจนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ทั้งภูมิภาคและระดับโลก

ปีนี้จะเปิดโครงการศูนย์กระจายสินค้า 5 โครงการ รวมพื้นที่ 400,000 ตารางเมตร พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ อาทิ 5G และโรโบติกส์ ซึ่งจะส่งผลให้ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ พัฒนาไปสู่การเป็น “คลังสินค้าอัจฉริยะ” โดยตั้งเป้าโครงการใหม่ และอาคารอุตสาหกรรมให้เช่าในปี 2564 ไว้ที่ 175,000 ตารางเมตร และสัญญาให้เช่าระยะสั้น 50,000 ตารางเมตร

2.ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ยังคงยืนหยัดความเป็นผู้นำในไทย และขยายธุรกิจในเวียดนามต่อเนื่อง โดยนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 พร้อมเปิดดำเนินการ นอกจากนี้มีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่่เพิ่มเติมภายในนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่ง ที่ระยอง 2 แห่ง และสระบุรี 1 แห่ง

ส่วนในเวียดนามจะเร่งสานต่องานก่อสร้างพื้นที่ส่วนที่เหลือในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน เฟส 1 พร้อมขยายการก่อสร้างในเฟส 2 และเฟส 3 รวม 7,800 ไร่ และจะเริ่มพัฒนาเขตอุตสาหกรรมใหม่อีก 2 แห่งในจังหวัดทัญฮว้า 7,500 ไร่ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2564 ที่จำนวน 1,000 ไร่

3.ธุรกิจระบบสาธารณูปโภค และพลังงาน ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรม ในประเทศไทยและเวียดนาม ในเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯ มีหุ้นในบริษัทน้ำ 2 แห่ง ตั้งเป้ายอดจัดจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำรวมไว้ที่ 153 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน

 ด้านพลังงาน ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสำหรับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม ตั้งเป้าเซ็นสัญญาเพื่อลงทุนผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวม 30 เมกะวัตต์ เร่งทดสอบระบบ Peer-to-Peer Energy Trading ปีนี้คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งสิ้น 650 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน

4.ธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจ จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ให้แล้วเสร็จ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ จะบริการที่ครบวงจรมากขึ้น พร้อมขยายการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ