พันธบัตรรัฐบาล 'เราไม่ทิ้งกัน' อายุ 5 ปี กับ 10 ปี รุ่นไหนคุ้ม?

เทียบชัดๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ "พันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน" อายุ 5 ปี กับ 10 ปี ให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่บ้าง รุ่นไหนคุ้ม
หลังจากกระทรวงการคลังเริ่มจำหน่าย “พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษเราไม่ทิ้งกัน” หรือที่เรียกกันว่า “พันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน” วันแรกเมื่อ 14 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ยอดขายรวม มากกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- พันธบัตร ‘เราไม่ทิ้งกัน’ วันแรก ยอดซื้อพุ่ง 2.5 หมื่นล้าน
- ‘พันธบัตรรัฐบาล’ รุ่น ‘เราไม่ทิ้งกัน’ กับ 10 เรื่องต้องรู้! ก่อนซื้อ
- เช็ค 'ดอกเบี้ย' พันธบัตรรัฐบาล 'เราไม่ทิ้งกัน' น่าลงทุนแค่ไหน?
ทว่า หลายคนที่ยังอยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อพันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน "กรุงเทพธุรกิจ" รวมข้อมูลและความคิดเห็นต่างๆ ที่สะท้อนว่า พันธบัตรรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี ต่างกันอย่างไร รุ่นไหนคุ้มกว่า เพื่อประกอบการตัดสินใจ
จากหนังสือชี้ชวนพันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน ระบุว่าพันธบัตรทั้ง 2 รุ่น มีความแตกต่างกันดังนี้
- เทียบอัตราดอกเบี้ย พันธบัตรรุ่น 5 ปี พันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี
พันธบัตรออมทรัพย์ ทั้ง 2 รุ่น มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเหมือนกัน แต่ให้อัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป โดยรุ่นอายุ 10 ปีจะมีอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับที่สูงกว่า โดยมีรายละเอียดดังตารางนี้
- ตัวอย่างดอกเบี้ยที่จะได้รับ
เมื่อคำนวณตามอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดของพันธบัตรทั้ง 2 รุ่น (แบบยังไม่หักอัตราเงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต) จะพบว่าโอกาสที่ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยจะมาหรือน้อย แปรผันตามจำนวนเงินที่ซื้อ โดยยกตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยพันธบัตรเราไม่ทิ้งกันรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี ในจำนวนเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท 10,000 บาท 100,000 บาท และ 1,000,000 บาท ได้ดังนี้
แม้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรุ่นอายุ 5 และ 10 ปี จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.4% (มากน้อยแล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) แต่สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบด้วยคือระยะเวลาที่ยาวนานกว่าเช่นกัน ซึ่งผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับอาจลดลง หรือเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราเงินเฟ้อในอนาคตในอีก 5 และ 10 ปีข้างหน้าด้วย
- พันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน คุ้มจริงไหม?
นับตั้งแต่มีการประกาศขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "เราไม่ทิ้งกัน" มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตหลากหลายแง่มุม
อาทิ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมออก "พันธบัตรเราไม่ทิ้งกัน" ระบุว่า วิธีขายพันธบัตรรัฐบาลรอบนี้ คือการขายตรงให้กับประชาชน โดยรัฐบาลนี้ให้สิทธิซื้อต่ำสุด 1,000 บาท สูงสุด 2,000,000 ต่อคน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3% (10ปี) หรือ 2.4% (5ปี)
"สำหรับพันธบัตรรอบนี้ ใครมีเงินออม ผมเชียร์นะครับ เขาเปิดให้จองได้ทุกธนาคาร (ให้สิทธิกับผู้สูงอายุเท่านั้นก่อนเหมือนกัน) ว่าไปแล้วผมคิดว่ารัฐบาลกำหนดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรไว้สูงเกินไปด้วยซ้ำ รัฐบาลพยายามเอาใจนักลงทุนหลักหมื่นคน แต่ต้องยอมรับว่าดอกเบี้ยที่สูงคือภาระเงินภาษีของคนไทยทุกคน ดังนั้นใครมีเงินออม ควรซื้อไว้ครับ และผมแนะนำว่า "ซื้อ 10 ปี" ดีกว่าครับ คนอาจจะจองน้อยกว่า และผมเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นไปอีกนานจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม"
ด้าน ธีระชัย นีรนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala โดยมีแสดงความเห็นและตั้งข้อสังเกตถึงพันธบัตรเราไม่ทิ้งกันไว้ว่า
กระทรวงการคลังจะเปิดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์พิเศษรุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยต่อปี ปีที่ 1 = 2.00% / ปีที่ 2-3 = 2.25% / ปีที่ 4 = 2.50% / ปีที่ 5 = 3.00% อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 2.40% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยต่อปี ปีที่ 1-3 = 2.50% ปีที่ 4-8 = 3.00% ปีที่ 9 = 3.50% ปีที่ 10 = 4.00% อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 3.00% ต่อปี
กำหนดระยะเวลาการจำหน่าย เป็น 3 ช่วงคือ สัปดาห์ที่ 1 จำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สัปดาห์ที่ 2 จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อยซื้อได้ก่อนแบบจำกัดวงเงิน 2 ล้านบาทต่อคนต่อธนาคาร และสัปดาห์ที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรเข้าซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน
พร้อมตั้งข้อสังเกต 3 ข้อ
- ท่านนายกพลเอกประยุทธ์ทราบหรือเปล่าครับว่า อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลในตลาดขณะนี้ 5 ปี เท่ากับ 0.801% ต่อปี และ 10 ปี เท่ากับ 1.053% ต่อปี อัตราดอกเบี้ย “เราไม่ทิ้งกัน” สำหรับพันธบัตรทั้ง 5 ปี และ 10 ปี สูงเป็น 3 เท่าของอัตราตลาด
- ท่านนายกฯ ทราบหรือเปล่าครับว่า ผู้ที่จะต้องรับภาระจ่ายดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราตลาด นับเป็น 3 เท่าดังกล่าว คือประชาชนทั้งประเทศ คนที่จะมีเงินออมมาซื้อพันธบัตรในยุคโควิด ก็คือคนรวย คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการ และพนักงานองค์กรที่มีเงินเดือนประจำ บรรดาคนที่มีเหลือกินเหลือใช้ ไม่เดือดร้อนจากโควิด แต่คนจนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้ไม่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ ที่จะมาออมซื้อพันธบัตร กลับจะต้องเป็นผู้จ่ายภาษี เพื่อดอกเบี้ยและใช้หนี้ในอนาคต
- ท่านนายกฯ ควรจะเรียกพันธบัตรรุ่นนี้ว่า “เราไม่ทิ้งคนรวย” ถ้าเปรียบกับโรบินฮู้ดกลับหัว เอาเงินจากคนจน ไปให้คนรวย
รัฐมนตรีคลังทำไมกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบเว่อร์อย่างนี้?
ผู้ว่า ธปท. ทำไมเห็นดีเห็นงาม ไม่คัดค้านเป็นเรื่องเป็นราว?
อย่างไรก็ตาม การซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "เราไม่ทิ้งกัน" ถือว่าเป็นการลงทุนที่ควรทำความเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากการซื้อพันธบัตรมีกำหนดระยะเวลาที่ตายตัว 5-10 ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องส่วนบุคคล จึงจำเป็นต้องพิจารณาเพื่อให้มั่นใจว่าเงินส่วนที่ซื้อพันธบัตรในระยะยาวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารเงินส่วนบุคคลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว







