Focus หุ้นรายตัว

Focus หุ้นรายตัว

คาดดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นยืนเหนือ 24 US/Barrel ได้อีกครั้ง

ตลาดหุ้นเมื่อวันอังคาร

SET วันก่อนปรับตัวลงปิดที่ 1,278 จุด (-23.03 จุด) หรือ -1.77% ด้วย Volume ซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท จากความกังวล Tradewar ระหว่างสหรัฐและจีนรอบใหม่หลังสหรัฐขู่เก็บภาษีจีนเพื่อตอบโต้ที่จีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลกหดตัวลง นอกจากนี้ยังมีแรงขายลดความเสี่ยงในกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบ 1Q20 จะชะลอตัวลง ได้แก่ Tourism , Etron , Petro และ Prop กดดันดัชนี  ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,605 ล้านบาท  , Net Short TFEX SET50 3,436 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 357 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,265 – 1,290 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนและมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้าโดยดัชนียังคงถูกแรงกดดันจากความกังวล Tradewar ครั้งใหม่หลังสหรัฐขู่เก็บภาษีจีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ซึ่งส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงแรงโดยเฉพาะอัตราว่างงานที่คาดว่าอาจสูงกว่า 20% นอกจากนี้ความกังวลผลประกอบการหลายบริษัทฯที่คาดว่างบ 1Q20 จะหดตัวลงทั้ง qoq และ yoy จะเป็นตัวฉุดดัชนี อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นยืนเหนือ 24 US/Barrel ได้อีกครั้ง ประกอบกับยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในไทยที่ลดลงเข้าใกล้ 0 รายจะเป็นแรงหนุนต่อทิศทาง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสเริ่มลดกำลังการผลิตลง
  • กรมอุตุฯเตรียมประกาศเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงกลางเดือน พ.ค. ซึ่งเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น EATSW, CKP, GPSC, GULF, BGRIM
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) กลุ่มอาหาร (CPF)
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q20 จะปรับตัวขึ้น (CPF, IVL, BCPG, GPSC, RS)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • MTC (ปิด 46.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 50 บาท) เก็งกำไรงบ 1Q20 คาดกำไรสุทธิทำ New high ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ ประมาณ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%qoq และ 20%yoy จากยอดสินเชื่อยังขยายตัว และได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง รวมถึงมี Soft loan ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน
  • INTUCH (ปิด 53.5 ซื้อ/เป้า 79 บาท) ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าเงินลงทุน (NAV) ใน ADVANC และ THCOM โดยมี Discount จากมูลค่า NAV ถึง 33% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20-25% และวันนี้ยังได้ Sentiment บวกจาก THCOM บริษัทลูก (ถือหุ้น 41%) ประกาศงบ 1Q20 พลิกมีกำไร 198 ล้านบาท มีกำไรครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส

บทวิเคราะห์วันนี้

THCOM (ปิด 3.9 ถือ/เป้า 4.0), TU (ปิด 12.8 ถือ/เป้า 15.3), Energy sector (Top pick: IVL, PTTGC, SPRC, TOP)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) Trade war ยังตึงเครียด ทรัมป์ สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าจีนปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้าเฟสแรกหรือไม่: เมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์พลิกปิดลบ 218 จุด (-0.91%) ปิดที่ระดับ 23,665 จุด เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลต่อปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐมากขึ้นหลัง โดนัล ทรัมป์ มีท่าทีที่จริงจังกับเรื่องดังกล่าว โดยล่าสุด ทรัมป์ สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าจีนปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้าเฟสแรกหรือไม่ซึ่งจะทราบผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าจีนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ทรัมป์ อาจสั่งยุติข้อตกลงและอาจจะเรียกเก็บภาษีจากจีนรอบใหม่ นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากข้อมูลในตลาดแรงงานที่อ่อนแอหลังจากที่ภาคเอกชนสหรัฐมีการปลดพนักงานมากถึง 20 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย.นับเป็นการลดพนักงานมากสุดเป็นประวัติการณ์
  • (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 6 สัปดาห์ จากแรงขายทำกำไรและกังวลคลังเก็บน้ำมันสหรัฐใกล้เต็มความจุ: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ระดับ 23.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ เป็นผลจาก 1) นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 150% จากระดับ 10 ดอลลาร์เพิ่มขึ้นเป็น 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะตลาดคาดหวังดีมานด์จะกลับมาฟื้นตัวจากการคลาย lockdown และ 2) นักลงทุนกลับมากังวลกับปัญหาคลังเก็บน้ำมันดิบในสหรัฐใกล้เต็มความจุอีกครั้งหลังสต๊อกน้ำมันดิบยังในประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย EIA คาดว่าคลังเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิ่งจะเต็มความจุภายในเวลาอีก 2 เดือน
  • (+) จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐลดต่ำกว่าระดับ 2 หมื่นรายเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ส่วนไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 คนต่อเนื่องเป็นวันที่ 2: สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณบวก โดยล่าสุด worldometer รายงานว่าสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 19,000 ราย นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่าระดับ 2 หมื่นรายเป็นครั้งแรกในรอบ 36 วัน ส่วนสถานการณ์ของประเทศไทยยังดีต่อเนื่องเช่นกันหลังจากที่วานนี้ ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 1 ราย ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,989 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 รายเป็น 55 ราย (ยังต้องติดตามสถานการณ์หลังคลาย lockdown ของหลายประเทศอย่างน้อย 14 วันเพื่อประเมินสถานการณ์)