'เซย์โน! ถุงพลาสติก' คึกคัก แนะรัฐออกกฎคุมครบวงจร

รวมกว่า 24,500 ช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศ พบกระแสผู้บริโภคตื่นตัวไม่น้อย!! แม้จะมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่คุ้นชิน แต่ส่วนใหญ่ได้เตรียมความพร้อม “ถุงผ้า” สำหรับใส่สินค้า 

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ดิ เอ็มโพเรี่ยม ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ กล่าวว่า  กลุ่มเดอะมอลล์ ได้เตรียมความพร้อมและมีการปรับตัวมาประมาณ 6 เดือนก่อนหน้า ฉะนั้นลูกค้าประจำของเดอะมอลล์จะเตรียมถุงผ้ามาชอปปิง จึงเรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มรณรงค์มีลูกค้ากว่า 90% ให้การตอบรับโครงการนี้เป็นอย่างดี รวมถึงยินดีให้ความร่วมมือในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยลดถุงพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง!

ทั้งนี้ เดอะมอลล์ ดำเนินนโยบายนำร่องเป็นห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรกที่งดบริการถุงพลาสติกภายใต้โครงการ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป โก กรีน” มาตั้งแต่ 3 ก.ค.2562 งดบริการถุงพลาสติกทุกวัน และรณรงค์ให้ลูกค้านำถุงผ้ามาชอปปิง  โดยหากลูกค้ามีความจำเป็นใช้ถุงพลาสติก ขอความร่วมมือบริจาค 1 บาท ต่อถุงพลาสติก 1 ใบ เพื่อนำไปสนับสนุนการทำงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ในวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยังได้จัดงาน “Everyday Say No To Plastic Bags” ร่วมนับถอยหลัง “Seven day Say Goodbye To Plastic Bags” ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน 75 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการลด ละ เลิกใช้พลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป  ทำให้ประชาชนเกิดการรับรู้และมีความเข้าใจมากขึ้น!!

“ลูกค้าส่วนใหญ่เตรียมความพร้อมในการชอปปิงโดยเตรียมถุงผ้ามาใช้บริการ เดอะมอลล์ กรุ๊ป นับเป็นห้างสรรพสินค้ารายเดียวที่ได้ผนึกกำลัง 15 พันธมิตรทางธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศ อาทิ ธุรกิจธนาคาร  เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กลุ่มประกันชีวิต บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม”

 พร้อมกันนี้ ลูกค้าแลกรับ “Reusable Bag” ได้ที่กูร์เมต์มาร์เก็ต และโฮมเฟรชมาร์ท เมื่อช้อปผ่านบัตรเครดิต 500 บาทขึ้นไป ขณะที่  ลูกค้า M Card หรือกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ช้อป 300 บาท ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มีความประทับใจที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมความพร้อมไปอีกขั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ร่วมรักษ์โลกครั้งนี้

ทางด้าน วิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า สถานการณ์การให้บริการลูกค้าภายหลังจากการเริ่มงดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นมา ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจและให้ความร่วมมือลดใช้ถุงพลาสติกเป็นอย่างดี  เห็นได้จากลูกค้าหลายรายที่เตรียมถุงผ้ามาใส่สินค้าเอง และลูกค้าที่นำสินค้าที่ชำระเงินแล้วใส่รถเข็นเพื่อนำไปใส่ที่รถยนต์

กรณีที่ลูกค้าบางรายไม่ได้นำถุงผ้ามาเอง บิ๊กซี ได้เตรียมถุงผ้าหลากหลายขนาดและราคามาจำหน่าย อีกทั้งในกรณีที่ลูกค้าซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก บิ๊กซี อำนวยความสะดวก “กล่องกระดาษ” ให้ลูกค้าฟรี ณ จุดบริการด้านหลังแคชเชียร์ชำระเงิน ตามสาขาต่างๆ 

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องภายในห้าง ทั้งพนักงานประชาสัมพันธ์ที่ประกาศแจ้งผ่านเสียงตามสาย ป้ายประชาสัมพันธ์ที่ติดตามจุดจำหน่ายสินค้า เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงส่งเสริมแนวทางต่างๆ ที่จะช่วยผลักดันการลดปริมาณขยะพลาสติก อันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานปัญหาจากการงดให้บริการงดถุงพลาสติกจากทางทีมงาน เป็นผลมาจากการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ รวมถึงภาครัฐก็ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือทั้งจากภาคประชาชนและเอกชนทำให้คนส่วนใหญ่รับรู้ถึง เข้าถึงข่าวสารและการรณรงค์”

ในปัจจุบันผู้บริโภคคนรุ่นใหม่หันมาตื่นตัวใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงทำให้ความร่วมมืองดใช้ถุงพลาสติกเป็นไปด้วยดี ไม่ได้เกิดปัญหามากนัก

อย่างไรก็ดี  สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ภายใต้ร้านค้าสมาชิกและภาคีเครือข่าย ตั้งเป้าหมายลดถุงพลาสติก 9,000 ล้านใบต่อปี หรือ 20% ของถุงพลาสติกหูหิ้วในไทยกว่า 45,000 ล้านใบต่อปี  วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและร่วมด้วยช่วยกันงดรับถุงพลาสติกหูหิ้วในวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดการรับทราบยังค่อนข้างน้อย

“การประชาสัมพันธ์ หรือ งดให้ถุงพลาสติก ณ จุดขาย เป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุ แต่หากจะให้เกิดผลสูงสุด จะต้องสร้างการตระหนักรู้การจัดการขยะให้ผู้บริโภคตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการจับจ่าย"

พร้อมกันนี้ ภาครัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนภาคส่วนอื่นๆ เข้าร่วมแคมเปญ “Everyday Say No to Plastic Bags”  โดยเฉพาะตลาดสด  แผงลอย  ร้านขายของชํา ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้ปริมาณถุงพลาสติกหูหิ้ว “4ใน5” ของปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วทั้งประเทศ

นอกจากนี้ รัฐต้องจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง กำหนด "โลโก้-งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว” เพื่อตอกย้ำสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค เช่นเดียวกับ โครงการฉลากเบอร์ 5 ลดการใช้พลังงาน

สมาคมฯ ยังมีความเห็นว่า “การลดขยะถุงพลาสติกหูหิ้วไม่ควรเป็นเรื่องของความสมัครใจ” แต่ควรเป็นเรื่องของการใช้ “กฎระเบียบบังคับ” เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกให้ได้ผล!!  

เป้าหมายตามโรดแมพที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดว่าถุงพลาสติกจะหมดไปในปี 2571 เป็นไปได้แค่ไหน? อยู่ที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมฝังทัศนคติ“รักษ์โลก” ให้อยู่ในสายเลือดนั่นเอง