ตลท.ผ่อนกฏเครื่องหมาย 'ซี' ลดอุปสรรค บจ. ปรับโครงสร้างหนี้

ตลท.ผ่อนกฏเครื่องหมาย 'ซี' ลดอุปสรรค บจ. ปรับโครงสร้างหนี้

ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมปรับปรุงเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมาย “ซี” หวังลดอุปสรรค บจ. ที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อแก้ไขฐานะการเงิน เผยจากการเฮียริ่งพบ 93% เห็นด้วยให้ปรับปรุง อีก 7% แนะยกเลิกเกณฑ์ดังกล่าว เหตุเป็นการลงโทษบริษัททำให้ขาดความน่าเชื่อถือ

นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นเครื่องหมาย C เพื่อให้สะท้อนมูลค่าทุนชำระแล้วของบริษัทจดทะเบียนได้ดียิ่งขึ้นและไม่เป็นอุปสรรคต่อบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ต้องการปรับโครงสร้างหรือพยายามแก้ไขปัญหาฐานะการเงิน 

โดยช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กระบวนการถัดไปเหลือเพียงรอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาอนุมัติตามที่ ตลท.ขอปรับปรุงแก้ไขเกณฑ์ ก่อนออกเป็นประกาศเพื่อมีผลบังคับใช้

สาเหตุการปรับปรุงข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นเครื่องหมาย C นั้น ตลท. ระบุในเอกสารรับฟังความคิดเห็นว่า ตามเกณฑ์ปัจจุบันหนึ่งในเหตุของการขึ้นเครื่องหมาย C คือ บจ.มีฐานะการเงินในงบการเงินฉบับล่าสุดแสดงว่าส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วที่หักด้วยส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น ซึ่งมองว่าการปรับปรุงตัวเลขทุนชำระแล้วข้างต้นยังไม่ครอบคลุมกรณีปรับโครงสร้างกิจการ เช่น การรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน และการซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับที่อาจมีการบันทึกบัญชีเพื่อปรับปรุงทุนชำระแล้วให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีและเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ไม่ได้เป็นรายการที่เกิดจากผลการดำเนินงาน

โดย ตลท.ได้เสนอปรับปรุงเกณฑ์การคำนวณเพิ่มเติม สำหรับ บจ.ที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วที่หักด้วยส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น โดย บจ.ข้างต้นสามารถนำรายการปรับปรุงทางบัญชีที่เกิดจากการปรับโครงสร้างกิจการ เช่น การรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน และการซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับมาหักออกจากตัวเลขทุนชำระแล้วได้ 

ส่วนตัวอย่างรายการที่นำมาหักออกจากตัวเลขทุนชำระแล้วได้ เช่น ส่วนปรับปรุงทุนจากการซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับ,ส่วนลดมูลค่าหรือส่วนขาดจากการรวมกิจการภายใต้การควบคุมเดียวกัน และส่วนต่ำกว่าทุนจากการรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน ทั้งนี้รายการที่หักทุกรายการให้หักได้ไม่เกินทุนชำระแล้วที่มีอยู่

ขณะที่ด้านผลการรับฟังความคิดเห็นในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีผู้แสดงความเห็นจำนวน 30 ราย ซึ่งประกอบไปด้วย บจ. 13 ราย ที่ปรึกษาทางการเงิน 13 ราย บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน(บลจ.) 3 ราย และชมรมวาณิชธนกิจ ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กว่า 93% เห็นด้วยกับข้อเสนอให้มีการปรับปรุง และไม่เห็นด้วย 7% โดยผู้ที่เห็นด้วยมีความเห็นเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดให้ บจ.ที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วที่หักด้วยส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นจะถูกขึ้นเครื่องหมาย C นั้นเป็นเกณฑ์ที่สูงเกินไป,ควรพิจารณาเพิ่มรายการทางบัญชีที่เป็นรายการที่มิใช่เงินสด เช่น การตั้งสำรองบางรายการ และค่าใช้จ่ายตัดจ่ายบางประเภทที่เกิดจากเหตุการณ์เฉพาะ (เช่น การควบรวมกิจการและการซื้อธุรกิจ) เป็นต้น โดยให้บวกกลับรายการดังกล่าวเข้าไปในส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากเป็นรายการที่ไม่ได้สะท้อนการทำกำไรของบจ. และควรทบทวนความเหมาะสมของสูตรการคำนวณโดยให้พิจารณาความผันผวนของผลขาดทุนแต่ละปีประกอบด้วย เป็นต้น

นอกจากนี้ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับปรุงเห็นว่าควรยกเลิกเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมาย C เนื่องจากเป็นการลงโทษบริษัท ทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ และส่งผลให้การขอรับการสนับสนุนจากบุคคลภายนอก รวมถึงการขอกู้สินเชื่อจากธนาคารเพื่อมาบริหารโครงการเป็นไปได้ยาก