รู้จักตัวตน 'เสี่ยป๊อบ NPP' และดีลปริศนาหรือไม่?

ในข้อหาอินไซเดอร์ซื้อขายหุ้น นิปปอนแพ็ค จำกัด (มหาชน) (NPP) (ก่อนเปลี่ยนชื่อมาเป็น NPPG) ถูกปรับไปราว 10 ล้านบาท เมื่อ 21 ก.ค.2560 เลยถูกห้ามนั่งเป็นกรรมการเป็นเวลา 3 ปี

แต่บทบาทของสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ใน NPPG ไม่ได้หายไปไหน ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในสัดส่วนกว่า 18.54% ยังไม่นับรวมเครือข่ายที่ร่วมถือหุ้นอีกจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะคอนเน็คชั่นจากนักเรียน วปอ. ด้วยกัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุด NPPG ซื้อสิทธิบริหาร ที่ทั้งเปิดและดําเนินกิจการ ให้เช่าช่วงร้านอาหารและเครื่องดื่ม ดีน แอนด์ เดลูก้า จาก PACE เป็นเวลา 5 ปี ต่อได้ 5 ปี ซื้อมาเท่าไหร่ไม่บอก บอกแค่ว่าจะใช้เงินลงทุน 500-800 ล้านบาท ขยายสาขาจาก 12 แห่ง เป็น 100 แห่ง และรายได้เพิ่มจาก 500 ล้านบาท เป็น 1,500 ล้านบาท

แต่ดีลนี้จะเป็นปริศนาหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากข่าวในอดีตของผู้ถือหุ้นใหญ่รายนี้ ที่เข้าไปพัวพันกับการซื้อกิจการในหลายๆธุรกิจที่ยังคาใจนักลงทุน มากเหลือเกิน โดยเฉพาะกรณี โพลาลิส แคปปิตอล ไปซื้อหุ้น เดย์ โพเอทส์ (เจ้าของนิตยสาร a-day และเว็บไซต์ The Momentum) จาก 2 ผู้ถือหุ้นเดย์ โพเอทส์ คือ ไทยฟู้ด โลจิสติกส์ และ ธนวรินทร์ ในราคา 308 ล้านบาท ท่ามกลางเงื่อนงำหลายประการ

ประการแรก POLAR ซื้อในราคาที่สูงมากกว่าปกติหลายเท่าตัว ทั้งที่ราคาประเมินอยู่ที่ 47.16 ล้านบาท แถมผลประกอบการขาดทุนหลายร้อยล้านบาท ประการถัดมา ชื่อ สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย อาจเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ พบว่า เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการบริษัท ธนวรินทร์ จำกัด (เจ้าของเดย์ โพเอทส์) ก่อนขายให้ POLAR และยังเป็นผู้ถือหุ้นใน POLAR ลำดับที่ 11 ด้วย

ในฐานะนักลงทุนขี้สงสัยจึงต้องตั้งคำถามกับดีลที่เกิดขึ้น จะมีปริศนาให้ขบคิดต่อหรือไม่ จะล่มปากอ่าวเหมือนกรณี POLAR ที่ซื้อล้มดีลซื้อหุ้น เดย์ โพเอทส์ หลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก เพราะนั่นหมายถึงราคาหุ้น NPPG ในอนาคต หลังจากที่ราคาเมื่อวานนี้(2ส.ค.)เด้งตอบรับข่าวชุดแรกไปแล้วเฉียด 6%

ส่งท้ายดัชนีหุ้นไทยกลับมาดีได้วันเดียว แต่วานนี้เจอพิษสงครามการค้าจีน-สหรัฐ กลับมาป่วนอีกรอบ ดัชนีถอยมาตั้งหลักแถว 1,700 จุดอีกครั้ง วานนี้ดัชนีลงไปลึกสุดที่ 1,700.69 จุด ลดลง 21.32 จุด จะปิดตลาดที่ 1,708.28 จุด ลดลง 13.73 จุด หรือ 0.8% มูลค่าการซื้อขาย 53,472 ล้านบาท กองทุนได้ทีถล่มขายรายเดียว 3,356 ล้านบาท ต่างชาติยังซื้อสุทธิ 347 ล้านบาท โบรกเกอร์ซื้อ1,046 ล้านบาท และ รายย่อยซื้อ 1,963 ล้านบาท