โรดแมพ‘ทีซีพี’ปั้นขุมพลัง‘เฮ้าส์ออฟแบรนด์’ปักธงผู้นำ

เปิดปฐมบทสู่อนาคตภายใต้พันธกิจของเจอเนเรชั่นที่ 2 ต้องการ “เป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจของประเทศไทยที่ได้รับการชื่นชมบนเวทีโลก” โดยเสียงชื่นชมไม่ได้วัดเฉพาะความแข็งแกร่งทางไฟแนนซ์หรือตัวเลขแสนล้าน!!

สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ ทีซีพี (TCP)  เจ้าของ ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ และซันสแนค กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทีซีพี นำสินค้าที่คิดค้นในประเทศไทยกระจายไปทั่วโลก ทำหน้าที่ “ทูตพาณิชย์แบรนด์ไทย” เวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจากความพร้อมขององค์กร ทุกกลุ่มสินค้ามีความเข้มแข็งพอ และตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่ในระดับหนึ่งที่จะเป็นอีกหนึ่ง “บิ๊กสเต็ป”  

จากที่มี “กระทิงแดง” และ “เรดบูล” เป็นหัวหอกกรุยทางปักธงบนแผนที่โลกกว่า 170 ประเทศ หลังจากนี้จะเป็นช่วงของการขยับขยายต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแต่ละประเทศ

“เราต้องการเป็นเฮาส์ออฟแบรนด์ที่ทรงพลังมีหลายแคธิกอรี่ตอบโจทย์หลายจังหวะของชีวิต ไปในหลายแบรนด์เพื่อไปรอบทิศ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงเชิงธุรกิจ” 

 ภาพ “เฮ้าส์ ออฟ แบรนด์” ของกลุ่มทีซีพี ประกอบด้วย แบรนด์สินค้าที่หลากหลายในพอร์ตโฟลิโอ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการตอบโจทย์ทุกการดื่มหรือการบริโภคในทุกช่วงเวลา ทุกสถานที่ ที่มีความต้องการแตกต่างกัน เป็นแนวทางเดียวกับบรรดาบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ในพอร์ตสินค้าจำนวนมากสร้างความได้เปรียบในการทำตลาดรองรับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม

โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ เป้าหมายใหญ่ของทีซีพี กรุ๊ป มีโอกาสผลักดันการเติบโตของสินค้าใน 5 กลุ่มหลักขยายสู่ “ตลาดใหม่” เป็นที่มาของการประกาศยุทธศาสตร์ลงทุนครั้งใหญ่กว่า 1 หมื่นล้านบาทในรอบ 61 ปี รองรับโรดแมพ 5 ปีข้างหน้า ที่จะมียอดขายทะยานแตะ 1 แสนล้านบาท เติบโต 3 เท่าจากสิ้นปีนี้มียอดขาย 3 หมื่นล้านบาท มาจากกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง 68% กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ 20% และอื่นๆ 12% โดยรายได้ทั้งหมด 60% เป็นสัดส่วนจากส่งออก 

ภารกิจเชิงรูปธรรม จะมีการเปิดโรงงานใหม่ หรือ สำนักงานใหม่ในต่างประเทศอย่างน้อยปีละ 1 แห่งทุกปี  การเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายบริหารและพนักงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ “นอกบ้าน” ฐานที่มั่นหลักแห่งอนาคต

“เราไม่ได้ตั้งสำนักงานเพื่อทำบัญชี แต่ต้องการทีมงานภาคพื้นดินในแต่ละประเทศเพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคที่มีความหลากหลายให้ได้มากที่สุด หากไม่มีทีมงานที่ใกล้ชิดพอจะหลุดกระแสได้ ซึ่งเป็นคีย์ซัคเซสของธุรกิจที่ทำให้เรดบูลครองความเป็นเบอร์ 1 ในแต่ละประเทศ”

การมีสำนักงานในประเทศต่างๆ จะช่วยให้ทีซีพี กรุ๊ป เข้าใจความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้ดียิ่งขึ้น สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการ “เฉพาะตลาด” ได้ดีขึ้นกว่าเดิม

สราวุฒิ ย้ำว่า เศรษฐกิจโลกมีขึ้นลงเป็นปัจจัยที่ไม่ว่าบริษัทแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากองค์กรและทีมงานมีความพร้อม!! เชื่อว่าจะรับมือได้ทุกสถานการณ์และเผชิญหน้าการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงตลาดประเทศไทย ที่นับวันดีกรีการแข่งขันนยิ่งรุนแรง มีความเคลื่อนไหวของแต่ละบริษัทที่ใช้โปรโมชั่นตัดราคากันมากขึ้น ย้อนกลับมาที่ทีมงานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพ 

“ทำธุรกิจยุคนี้ต่างจากสมัยว่าที่วางแผน 5 ปี 10 ปี แล้วเดินตามได้ แต่เวลานี้แต่ละปีก็ต้องเปลี่ยน เรียกว่า ทำไปคิดไป บนหลักการสำคัญที่สุด คือ ความเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละตลาดที่มีความแตกต่างกันได้ดีที่สุด” 

ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจทีซีพีมีโรงงาน 2 แห่งในไทย และอีก 3 แห่ง ในอินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน มีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1,000 ล้านลิตรต่อปี โดย “ไทย” เป็นฐานการผลิตใหญ่สุด ในไทยและทั่วโลกมีพนักงานรวมกว่า  5,000 คน  ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่ม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด  รับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม บริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ และ บริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ

ความท้าทายของเจน 2 รอพิสูจน์ฝีมือ