‘กสิกร’ ชี้ยอดใช้เงินสกุลท้องถิ่นพุ่ง

นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการชำระเงินระหว่างธนาคารในภูมิภาค (Regional Settlement Bank) โดยได้เปิดบริการโอนเงินและชำระสินค้าทุกสกุลเงินในอาเซียน+3 คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นธนาคารแรกในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุน เพราะไม่ต้องแลกเปลี่ยนเงินผ่านหลายสกุลเหมือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มทางเหลือให้คู่ค้าในท้องถิ่นมากขึ้น เนื่องจากคู่ค้าในประเทศอาเซียน+3 หลายรายจะทำการซื้อขายด้วยสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศตนเองเท่านั้น โดยธนาคารกสิกรไทยคาดว่าจะมีปริมาณธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินอาเซียน+3 ผ่านธนาคารประมาณ 2.8 แสนล้านบาท หรือเติบโต 11%

นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศภายในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังคงใช้สกุลเงินหลักของโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอลิง และ ยูโร ฯลฯ เป็นตัวกลางในการชำระเงิน อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐในกลุ่มประเทศอาเซียนมีนโยบายในการสนับสนุนให้ค้าขายด้วยเงินสกุลท้องถิ่นมากขึ้น

ส่งผลให้การใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จากสัดส่วน 16% ของมูลค่าการค้าในปี 2555 เพิ่มเป็น 22% ในปี 2559 ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนได้ 8 พันล้านบาท โดยในปี25560 คาดว่าสัดส่วนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในอาเซียนจะเพิ่มเป็น 23% มีส่วนช่วยประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการได้ 1.2 หมื่นล้านบาท

“เดิมทีในการทำการค้าการลงทุน เอกชนจะต้องแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อน แล้วแปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่นอีกที ทำให้มีต้นทุนในการแลกเปลี่ยนค่าเงินหลายต่อ แต่การโอนและชำระจากเงินไทยเป็นเงินสกุลท้องถิ่นเลย นอกจากจะช่วยลดต้นทุนได้การแลกเปลี่ยนค่าเงินได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยลดความผันผวนจากเงินดอลลาร์สหรัฐได้ด้วย เพราะในอดีตความผันผวนของเงินบาทเทียบสกุลเงินท้องถิ่นจะน้อยกว่า”

โดยในการเปิดให้บริการครั้งนี้ ธนาคารการจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในต่างประเทศกว่า 70 ราย มีแผนใช้ดิจิตอลเทคโนโลยีในการสร้างช่องทางการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ถูกต้อง สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย เช่น การเพิ่มช่องทางการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วให้กับลูกค้าของธนาคาร และยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และการเข้าถึงลูกค้าครอบคลุมมากกว่าเดิมจากพันธมิตรของธนาคาร

ทั้งนี้สัดส่วนการเพิ่มขึ้นการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในอาเซียนในการทำการค้าของไทยในปี 2559 ที่ผ่านมา พบว่า การใช้เงินหยวนของประเทศจีนเพิ่มขึ้น 96% การใช้เงินริงกิตของประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้น 130% การใช้เงินรูเปียร์ของประเทศอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 124% และการใช้เงินเปโซของประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 112%