เข้าสะสมหุ้น

เข้าสะสมหุ้น

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐ ฯ และยุโรป ( 11 มค. 2560 – 18 มค. 2560)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวลดลงโดย DJIA -0.75% เมื่อนักลงทุนขายปิดความเสี่ยงเพื่อรอถ้อยคำแถลงของนาย Trump และ DAX -0.40%, CAC ฝรั่งเศส -0.72% FTSE100 -0.59% เมื่อ May นายกของอังกฤษ ยืนยันจะใช้มาตรการ Hard Brexit

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน ( 11 มค. 2560 – 18 มค. 2560)

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง -0.76% กดดันโดยกลุ่มพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Technology และ กลุ่มค้าปลีก ปรับตัวขึ้นเนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 11 มค. 2560 – 18 มค. 2560)

SET INDEX ปรับตัวลงกดดันโดยกลุ่มหุ้น BIG CAP หลักๆ เช่น SCC / PTT / AOT จากแรงขายทำไร โดยลดลงทะลุแนวรับ 1,545จุด ในระหว่างการซื้อขาย แต่เกิดแรงซื้อสามารถปิดยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ปิด ณ ที่ระดับ 1,553.60 จุด ปรับตัวลดลง -19.33 จุด -1.23%

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (20-26 ม.ค. 2560)

เราคงมุมมองการลงทุนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าเป็น “กลางถึงบวก” ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า แม้ว่าจะเกิดการปรับฐานลงหลังไม่ผ่าน 1,580 จุด ย่อตัวลงสู่แนวรับสำคัญ 1,550 จุด การปรับพอร์ตการลงทุนของต่างชาติเชื่อว่าเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เรายังมองว่าทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาอ่อนค่าและมีโอกาสหลุดแนว 100 จุด ขึ้นอยู่กับถ้อยแถลงของนาย Trump หลังเข้าพิธีสาบานตนวันที่ 20 ม.ค. หากเกิดความไม่ชัดเจนในนโยบายด้านเศรษฐกิจ รวมถึง Border-Adjustment Tax ที่จะสร้างแรงกดดันต่อคู่ค้าทั่วโลก กลายเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดสหรัฐฯ และกลับเข้า Safe haven อย่างตลาดหุ้นในเอเชีย และตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ การทยอยประกาศงบการเงิน 4Q59 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ม.ค. ต่างออกมาใกล้เคียงหรือดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ สาระสำคัญของกลุ่มธนาคารในปีนี้คือ คุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งเราเริ่มเห็นแล้ว NPLs ทรงตัวถึงลดลง Coverage Ratio ขยับขึ้น ย่อมเป็นบวกต่อแนวโน้มในปี 2560 ภายใต้ภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงการทยอยประกาศงบในสัปดาห์หน้า อย่าง SCC หากออกมาใกล้เคียงคาด ช่วยจำกัด Downside risk ของตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน
กลยุทธ์โดยรวม เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนใช้วิธี “ขึ้นแรงขาย – ย่อตัวซื้อ” การพักฐานของ SET INDEX ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นจังหวะของการเข้าสะสมหุ้นเป้าหมาย เพราะเชื่อว่าช่วงครึ่งหลังของเดือนม.ค.จะเห็นการฟื้นตัวลักษณะ Technical Rebound สู่ด่าน 1,580 จุด

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

1. ติดตามถ้อยแถลงของนาย Donald Trump หลังเข้าพิธีสาบานตนในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 20 ม.ค.

2. ติดตามตัวเลข GDP ใน 4Q59 ของจีนวันที่ 20 ม.ค.

3. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น การส่งออก-นำเข้าของญี่ปุ่น / ดัชนี PMI ภาคการผลิต – บริการของอียู / GDP ใน 4Q59 ของสหรัฐฯ

4. ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ / มาเลเซีย / สิงคโปร์ / ไต้หวัน (25-30)/ เวียดนาม / เซี่ยงไฮ้