สมหวังรอเกณฑ์พิโคไฟแนนซ์-คาดปี60สินเชื่อแตะหมื่นล้าน

นายศุภชัย บุญสิริ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไฮเวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภทภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นมาใกล้ 7,000 ล้านบาทแล้วจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายหากตลาดฟื้นกลับมาจากที่ซึมไปในเดือนต.ค. เชื่อว่าจะทำให้สินเชื่อเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 

ทั้งนี้ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า สินเชื่อของบริษัทจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดปี 2560 พอร์ตสินเชื่อจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสัดส่วนสินเชื่อจะเน้นสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ให้มีสัดส่วน 20-30% และสินเชื่อเพื่อใช้จัดซื้อรถยนต์มาใช้ในกิจการ (Fleet) ให้มีสัดส่วน 10% ขณะนี้บริษัทยังมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเป้าหมายการเติบโต 

ขณะที่สินเชื่อฟลีท บริษัทเพิ่งเริ่มทำตลาดเมื่อกลางปีนี้ที่ผ่านมา และเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนือ โดยเน้นรถบรรทุกและกระบะเป็นหลัก

ส่วนคุณภาพสินเชื่อของบริษัท มีแนวโน้มดี ขณะนี้มีเอ็นพีแอลต่ำกว่า 2% ลดลงจากปีก่อนที่มีมากกว่า 2% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเลือกลูกค้าที่ดี และให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์การใช้เงินของลูกค้า ซึ่งปีหน้ายังคงคุมระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับ 2% โดยนโยบายในการปล่อยสินเชื่อของบริษัทจะสอดคล้องกับธนาคาร ที่ยึดหลักความระมัดระวัง ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยแม้เศรษฐกิจชะลอตัว

สำหรับกลยุทธ์การเติบโตปีหน้า จะใช้การขยายสาขาที่จะเจาะพื้นที่ในกทม.และอีสานมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายสาขาเป็น 200 แห่งในปีหน้า และเป็น 300 แห่งในปี 2561 จากปัจจุบันที่มี 150 แห่ง โดยใช้งบประมาณผ่านสาขาประมาณ 1 ล้านบาท และใช้เวลา 1.5-2 ปี เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน ขณะเดียวกันจะทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นทั้งเฟสบุคและเว็บไซต์เพื่อรองรับการเข้ามาของพร้อมเพย์  

ส่วนอัตราดอกเบี้ยของบริษัทถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าคู่แข่งหรืออยู่ที่ 0.55% ต่อเดือน เทียบกับคู่แข่งที่มี 0.6-0.7%  ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยขณะนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้บริษัทยังมีความสนใจที่จะทำธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ที่กระทรวงการคลัง จะใช้เป็นแนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ขณะนี้ต้องการรอดูกฏระเบียบให้ชัดเจนก่อนว่า จะสามารถใช้สาขาต่างจังหวัดจดทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการได้หรือไม่ รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คลอบคลุมถึงลูกค้าต่างพื้นที่เข้ามาขอสินเชื่อจะได้หรือไม่ 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัมได้เริ่มทดลองสินเชื่อ“สมหวัง สบายใจ” ที่มีลักษณะเดียวกับสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่ปล่อยให้กับลูกค้ารายเล็กโดยไม่ต้องใช้หลักประกันตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดสินเชื่อถึง 200 ล้านบาท และยังควบคุมคุณภาพได้ดี  

ดังนั้นบริษัทจึงได้ตัดสินใจชะลอการปล่อยสินเชื่อไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงการคลัง มีแนวคิดออกพิโคไฟแนนซ์  ซึ่งบริษัทเห็นว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ หากกฏระเบียบที่ออกมามีความชัดเจน และสามารถดำเนินการได้ ก็จะยื่นขอใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง หรืออาจกลับไปปล่อยสินเชื่อผ่านสมหวัง สบายใจเช่นเดิม

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจที่จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถไถ ซึ่งราคาสินค้าเกษตรที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาน่าจะอยู่ในระดับต่ำสุดแล้ว และการที่ภาครัฐพยายามเข้ามาบริหารจัดการอุปทานในตลาดให้มีความเหมาะสม เชื่อว่าจะทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้นได้