‘ทิปโก้’ เดินหน้าลุยตลาดส่งออก

นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตน้ำผลไม้แบรนด์ “ทิปโก้” เปิดเผยว่าปัจจุบันสินค้าที่ผลิตจากกลุ่มเอเชียได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น จากการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อโซเชียล ทำให้รู้จักสินค้าไทย ซึ่งในกลุ่มน้ำผลไม้มีรสชาติเข้มข้นและหลากหลายกว่าสินค้าจากยุโรป

จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทจึงให้ความสำคัญกับการทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน, จีน,เกาหลี, ตะวันออกกลาง และโอเชียเนีย ปัจจุบันทำตลาดกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ตลาดหลักยังคงเป็นประเทศจีน เกาหลี สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

 สำหรับตลาดส่งออกที่เติบโตสูง คือ เกาหลี พบว่าได้รับการเป็นตอบรับจากลุ่มผู้บริโภค เดิมขายผ่านโมเดิร์นเทรด ปัจจุบันขยายช่องทางใหม่ไปยังร้าน Tour Les Jours เชนร้านเบเกอรี่ชื่อดังที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วไป รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศและช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้มีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปีนี้จึงตั้งเป้าหมายตลาดเติบโต 10% ปัจจุบันทิปโก้มีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาดน้ำผลไม้ในเกาหลีก

ส่วนตลาดพิลิปปินส์ได้ขยายช่องทางไปยังร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น จากเดิมขายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก ปัจจุบันทิปโก้มีส่วนแบ่งการตลาด 30% ครองเจ้าตลาดในกลุ่มน้ำผลไม้นำเข้า

ขณะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน มียอดขายกว่า 50% ของยอดการส่งออกทั้งหมด เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี  ส่วนโอเชียเนียขยายตัวสูงเช่นกัน บริษัทเตรียมเข้าไปทำตลาดในนิวซีแลนด์ จากเดิมทำตลาดในออสเตรเลียเท่านั้น โดยจะขายผ่านโมเดิร์นเทรดที่มีชั้นวางจำหน่ายสินค้าจากเอเชียโดยเฉพาะ

พร้อมเดินหน้าหาตลาดใหม่ๆ ต่อเนื่อง กำลังศึกษาช่องทางใน  2 ประเทศ ได้แก่ ลิเบียและแอฟริกา เนื่องจากการแข่งขันไม่สูง จึงเป็นโอกาสขยายตลาดส่งออกเพิ่มเติม โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างน้อย 1-2 รายการต่อปี

นายเอกพล กล่าวว่าภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ในภูมิภาคเอเชียยังมีแนวโน้มเติบโตราว 5% ต่อปี ถือเป็นอัตราการที่ดี ส่วนหนึ่งมาจากประชากรในภูมิภาคนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเปิดประเทศและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียน ทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมดื่มน้ำผลไม้นำเข้ามากขึ้น   

     จากแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น บริษัทได้ตั้งเป้าหมายสัดส่วนส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 25% ภายในช่วง 3-5 ปีจากนี้ เติบโตปีละ 15% หรือมีรายได้จากการส่งออก 4,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของบริษัทปี 2558 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ในไทยเติบโตราว 4-5% โดยช่วงเดือน ก.ย. นี้ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 รายการ

ส่วนกลุ่มน้ำดื่มออร่าปัจจุบันพบว่าสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จึงเตรียมแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น หลังจากขยายกำลังผลิตไปแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาปัจจุบันมีกำลังการผลิตเต็ม 100% หรือที่ 120 ล้านขวดต่อปี