กลุ่มเซ็นทรัล วางยุทธศาสตร์หนุนเอสเอ็มอี

กลุ่มเซ็นทรัล วางยุทธศาสตร์หนุนเอสเอ็มอี ตั้ง “คณะทำงาน” เชื่อมแพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจ“ไทย-อาเซียน-ยุโรป” เปิดทางรายย่อยสยายปีก
วานนี้ (8 ส.ค.) กลุ่มเซ็นทรัล โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดงาน“เอสเอ็มอี ธิงค์บิ๊ก#คิดให้ใหญ่ ไปได้ไกล กับกลุ่มเซ็นทรัล”ขานรับนโยบายประชารัฐ เพื่อผลักดัน “เอสเอ็มอีไทย” เข้าสู่ตลาดค้าปลีกอย่างเป็นรูปธรรมสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นหัวใจสำคัญของขับเคลื่อนประเทศเติบโตยั่งยืน เวลานี้นับเป็นยุคทองของเอสเอ็มอี จากการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เปิดกว้างทั้งในไทย มีประชากรมากกว่า 60 ล้านคน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทย 30 ล้านคน รวมทั้งประชากรซีแอลเอ็มวี 250 ล้านคน หรือพลเมืองอาเซียนกว่า 600 ล้านคน จำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รองรับโอกาสธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ นโยบายของกลุ่มเซ็นทรัล ต้องการสร้างและสนับสนุนเอสเอ็มอี จากความแข็งแกร่งในความเป็นธุรกิจระดับชาติและภูมิภาคของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีเครือข่ายครอบคลุมกิจการค้าปลีก สินค้าและบริการทุกรูปแบบ ในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคงรองรับธุรกิจเอสเอ็มอี
“เป็นชาเลนจ์ของเซ็นทรัลจะเชื่อมแพลตฟอร์มธุรกิจเหล่านี้ในรูปแบบปลั๊กอิน ให้กับเอสเอ็มอีเติบโตไปด้วยกัน จะทำอย่างไรให้เอสเอ็มอีใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มธุรกิจในเครือเซ็นทรัลทั้งในและต่างประเทศ”
การขับเคลื่อนธุรกิจเวลานี้ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และเล็ก หมดยุค “แข่งกันเอง”ต้องอาศัยความร่วมมือ โดยเครือข่ายธุรกิจของเซ็นทรัลสามารถรองรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ “เวียดนาม” ที่สามารถเปิดสาขาได้ทันที 35 แห่ง หรือต้องการสร้างแบรนด์คุณภาพที่ดีที่สุดในโลกเจาะตลาดลักชัวรี สามารถเจาะจงไปกับเครือข่ายธุรกิจเซ็นทรัลที่อิตาลี
ตั้งคณะทำงานเอสเอ็มอี
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลมีพื้นฐานความรู้ วิธีการทำธุรกิจค้าปลีก และเครือข่ายในการจัดจำหน่ายสินค้าที่แข็งแกร่งรวมกว่า1,300 จุดจำหน่าย พร้อมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ อาทิ การบริหารจัดการ การจัดจำหน่าย ผลักดันเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่ตลาดค้าปลีกในระดับประเทศและภูมิภาค
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ซีพีเอ็น กล่าวว่า เซ็นทรัลเตรียมตั้ง “คณะทำงานเอสเอ็มอี” โดยเฉพาะสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีต่อเนื่อง โดยมีนายชนิตร ชาญชัยณรงค์ อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รับหน้าที่หัวเรือใหญ่ ทำหน้าที่คัดเลือกเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการสนับสนุน
เก่งอันไหนทำอันนั้น
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กุญแจแห่งความสำเร็จในการสร้างธุรกิจของเอสเอ็มอี ต้องมุ่งมั่นและฝันที่ต่างจากคนอื่น ไม่กลัวความล้มเหลว เชื่อในโค้ช มีพื้นฐานธุรกิจที่ถูกต้อง ทั้งด้านการเงิน บัญชี การผลิต การบริหารจัดการ มีความอดทนต่อพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้า สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองเข้ากับสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมอย่างทันท่วงที มีวินัยทางการเงิน ปรับปรุงธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องมี พันธมิตร
“โลกสมัยใหม่หลากหลาย คิดจะทำเหมือนคนอื่นไม่ได้ หากต้องการเปิดร้านอาหารก็ต้องคิดว่าจะทำแคธิกอรี่ไหน แบ่งออกมา จะเหมาหมดไม่ได้ เก่งอันไหนทำให้เป็นคิงของแคธิกอรี่นั้น”
ธุรกิจยุคออฟไลน์พ่วงออนไลน์
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จต้องเริ่มต้นจาก “ไม่เลียนแบบใคร” ตั้งคำถามกับธุรกิจว่า ทำไมลูกค้าต้องมาซื้อเราให้ได้และหลีกเลี่ยงกับดัก “ราคา” เพราะราคาถูกไม่มี แต่จะมีคนถูกกว่าเสมอ
ขณะเดียวกัน การดำเนินธุรกิจในอนาคต จะต้องพ่วงระหว่าง “ออฟไลน์” และ “ออนไลน์” หรือ “ออนไลน์” และ “ออฟไลน์” เป็นเทรนด์หลักนับจากนี้ที่จะต้องบาลานซ์ระหว่าง 2 ธุรกิจให้มีประสิทธิภาพต่อการทำยอดขายและกำไร
ชู“พี่ช่วยน้อง”ฟื้นเอสเอ็มอี
นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานร่วมคณะทำงานด้านส่งเสริมเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และธุรกิจเพื่อสังคม (SE) ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ กล่าวว่า ความร่วมมือของคณะสานพลังประชารัฐมุ่งทำโครงการส่งเสริมเอสเอ็มอี ภายใต้แนวทาง “พี่ช่วยน้อง” ทั้งนี้ได้ร่วมกับซีพีเอ็น ส่งเสริมเอสเอ็มอีให้มีช่องทางการขยายธุรกิจ ส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจ รวมถึงการจัดทำศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ
เร่งปรับ “เอสเอ็มอี 4.0”
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เตรียมหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อจัดทำมาตรการส่งเสริมสนับสนุนภาคธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งภาคแรงงาน และภาคอุตสาหกรรมไปพร้อมๆ กัน เป็นการปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0
ทั้งนี้ มาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลจะเร่งรัดออกส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มุ่งฟื้นฟูกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหาทางธุรกิจและเป็นหนี้เสีย รวมถึงหาทางขยายตลาด พัฒนาผู้ประกอบการให้กลายเป็น “องค์กรนวัตกรรม” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีศักยภาพ
“เป้าหมายภายใน 5 ปี รัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีในอุตสาหกรรม 2.0 ขยับขึ้นมา 3.0 และ 3.0 ขยับมา 4.0 มากที่สุด”







