คมนาคมเดินหน้าพัฒนาอู่ตะเภาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับกองทัพเรือ เรื่องการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ว่า กระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือตกลงที่จะพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3

ทั้งนี้ แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ระยะแรก (ปี 2558-2560) สร้างอาคารผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับผู้โดยสารจากเดิมรองรับได้ 800,000 คน เป็น 3 ล้านคน คาดจะเสร็จปี 2559 ซึ่งกองทัพเรือมีงบประมาณสร้างอาคารผู้โดยสาร 1,000 ล้านบาท แต่ต้องการเพิ่มอีก 800 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยก่อนเสร็จมีการใช้อาคารผู้โดยสาร ทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน การบริการทางภาคพื้น ระบบเติมน้ำมัน และหอบังคับการบินที่มีอยู่เดิม โดยมีกองทัพเรือเป็นผู้บริหารท่าอากาศยานอู่ตะเภา ในกรณีมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะเข้ามาอำนวยความสะดวกด้านภาคพื้นเฉพาะกรณีที่กองทัพเรือร้องขอและให้ความเห็นชอบแล้วเท่านั้น

ส่วนระยะ 2 (ปี 2561-2563) มีการเพิ่มศักยภาพเพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 5 ล้านคน และเตรียมการศึกษาบริหารจัดการพื้นที่การให้บริการเชิงพาณิชย์และความมั่นคงภายใต้ความเห็นชอบของกองทัพเรือ และระยะ 3 (หลังปี 2563 เป็นต้นไป) มีการศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพื้นที่ (landside และ Airside) และสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาขีดความสามารถของท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้รองรับการเติบโตของกิจการการบินในอนาคต สำหรับเส้นทางเชื่อมต่อทางเข้า-ออกท่าอากาศยานนั้น จะมีการเชื่อมกับเส้นทางทางหลวง ทางหลวงพิเศษ เส้นทางรถไฟ โดยกระทรวงคมนาคมจะรับผิดชอบเส้นทางเชื่อมภายนอก ส่วนภายในท่าอากาศยานกองทัพเรือจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกองทัพเรือจะมีขึ้นภายในปลายเดือนพฤษภาคมปีนี้

พล.อ.อ.ประจิน เปิดเผยอีกว่า จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา 2 คณะ คณะแรกจะติดตามดูแลแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการภายท่าอากาศยานอู่ตะเภา และการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมกับภายนอกท่าอากาศยาน คณะที่ 2 ติดตาม ดูแลการวางแผนธุรกิจส่งเสริมกิจการของท่าอากาศยานอู่ตะเภา โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานทั้ง 2 คณะ

พลเรือตรีวศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนแล้ว ส่วนใหญ่ไฟลท์ที่ลงจอดจะเป็นชาเตอร์ไฟลท์ แต่ไฟลท์บินปกติเริ่มมีมาบ้าง เช่น กานต์แอร์ ซึ่งเป็นไฟล์บินจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทางกองทัพเรือค่อนข้างพร้อมและมั่นใจว่าจะบริหารได้แน่นอน สิ่งที่ทางกองทัพเรือต้องการตอนนี้ คือ ประชาสัมพันธ์ให้สายการบินต่าง ๆ ใช้ท่าอากาศยานอู่ตะเภา