ไทยพาณิชย์เผยกำไรQ1/58อยู่ที่1.31หมื่นลบ.

ไทยพาณิชย์เผยกำไรQ1/58อยู่ที่1.31หมื่นลบ.

"ไทยพาณิชย์" เผยไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิ 13,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังชดเชยเงินฝาก สจล.

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "ผลประกอบการในไตรมาสแรกแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ที่สามารถรักษาระดับการทำกำไร ไว้ในระดับที่สูงแม้อยู่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายและถูกผลกระทบในเรื่องค่าใช้จ่ายครั้งเดียว จากกรณีทุจริตที่เกิดขึ้นกับบัญชีเงินฝากของ สจล. ในขณะที่ธนาคารฯ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจเพื่อให้รองรับกับอนาคต ธนาคารฯ เชื่อมั่นว่าด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจ จะทำให้ธนาคารฯ สามารถยืนหยัดและสร้างผลงานที่แข็งแกร่งได้ต่อไป"

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในไตรมาสที่ 1/2558 จำนวน 20,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากเดิมในไตรมาสที่1/2557 ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการลดค่าใช้จ่ายทางด้านดอกเบี้ยเงินฝาก และมีการเติบโตของสินเชื่อเพิ่มขึ้น 4.3% จากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จำนวน 12,010 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากธุรกรรมค้าเงินและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ และรายได้จากเงินปันผล

ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย จำนวน 12,498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% จากไตรมาสที่ 1/2557 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรณีทุจริตที่เกิดขึ้นกับบัญชีเงินฝากของ สจล. ซึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบล่วงหน้าจนกว่าคดีจะสิ้นสุด หากตัดค่าใช้จ่ายพิเศษส่วนนี้ออกไป ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยของธนาคารฯ จะอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อน

คุณภาพสินเชื่อ ในไตรมาสที่ 1/2558 ธนาคารฯ ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้จำนวน 3,601 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.80% ของสินเชื่อทั้งหมด เพิ่มขึ้น 12.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีอัตราส่วน สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 2.13% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เพิ่มขึ้นจาก 2.11% จาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 ขณะที่ อัตราสำรองรวมต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับคงที่คือ 138.1% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อธนาคารฯ รวมถึงความร่วมมือร่วมใจและความทุ่มเทของพนักงาน ในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ปัจจัยสำคัญทั้งสองส่วนนี้จะช่วยส่งเสริมและผลักดันให้ธนาคารฯ ก้าวต่อไป อย่างแข็งแกร่งและบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ในการเป็น "ธนาคารที่ทุกคนเลือก" หรือ "Bank of Choice”