"วงษ์พาณิชย์" เชื่อมจิ๊กซอร์ แฟชั่นรักษ์โลก

สินค้าแฟชั่นที่ทำมาจากขวดพลาสติกPET ทำให้ขยะ ไม่ใช่แค่ของไร้ค่า แต่กำลังส่องแสงเอามากๆ ในโลกแฟชั่น
“จริงๆ แล้วโลกนี้ไม่มีขยะเลย เป็นเพียงทรัพยากรที่เอาวางไว้ผิดที่เท่านั้น”
คำกล่าวของ “ดร.สมไทย วงษ์เจริญ” ประธานกรรมการโรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล “วงษ์พาณิชย์” เจ้าของธุรกิจแยกขยะพันล้าน ที่ฝากไว้ในเวทีเสวนา “เคล็ด (ไม่) ลับ... สู่ความสำเร็จปี 4 ตอน พลิกโอกาส สร้างเศรษฐี” โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ผ่านมา
“โลกนี้ไม่มีขยะ” และ “ขยะ คือ ทองคำ” คือคำพูดติดปากที่ดร.สมไทย ใช้สื่อสารกับผู้คนตลอด 4 ทศวรรษของการทำธุรกิจ
แต่ในวันเริ่มต้น จะมีสักกี่คนที่เห็นด้วยกับคำของเขา
จนในวันที่บริบททางสังคมเริ่มแปรเปลี่ยน ผู้คนเริ่มตระหนักรู้ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มเข้าใจกระบวนการรีไซเคิลและวิธีจัดการกับขยะอย่างเป็นระบบ เริ่มเห็นปลายทางของขยะที่ออกมาเป็น “ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก” ซึ่งไม่เหลือเค้าของเหลือทิ้ง ของสกปรก มีแต่ความน่าจับต้อง น่าลองใช้
ขณะที่ธุรกิจของวงษ์พาณิชย์ก็ค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่ในไทย แต่ยังสยายปีกไปในระดับโลก มีมูลค่าธุรกิจหลักพันล้านบาทในวันนี้
นั้นเองที่ทำให้คำกล่าวของเขา ไม่ใช่แค่ “วลีทอง” อีกต่อไป แต่เป็น “ของจริง” ที่พิสูจน์ได้ในระดับโลก
“ความพยายามเก็บรวบรวมทรัพยากรที่กระจัดกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศและโลก เข้าสู่กระบวนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ด้วยกระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อผลิตเป็นวัตถุดิบและสินค้าในระดับนานาชาติ นี่คือความหมายของขยะในวันนี้”
เขาบอกทัศนคติของสังคมที่เปลี่ยนไป จนนำมาสู่นิยามใหม่ของคำว่า “ขยะ”
และทัศนคติที่ว่านี้ ก็ยิ่งส่งพลังบวกมากขึ้น เมื่อวันที่แบรนด์ระดับโลก ต่างสามัคคีกันลุกขึ้นมาผลิตสินค้าแฟชั่นจาก “ขยะ” ที่สำคัญไม่ใช่ทำแค่พอใช้ได้ หรือต้องฝืนใจใช้ เพราะพวกมันมาพร้อมฟังก์ชั่นและดีไซน์ สนองใจผู้คนยุคนี้
เขายกตัวอย่าง ขวดพลาสติก PET ที่สามารถนำไปรีไซเคิลเป็น เส้นใยโพลีเอสเตอร์ เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์นำไปพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่นรักษ์โลก
เช่น กางเกงยีนส์ลีวายส์ ของสาวกคนรักยีนส์ ที่ผลิตยีนส์คอลเล็คชั่น “WasteLess” จากการนำพลาสติก PET รีไซเคิลมาทำกางเกงยีนส์ หรือ นวัตกรรมเสื้อผ้าเพื่อสิ่งแวดล้อมของ เทสโก้ โลตัส ที่นำเสื้อผ้าแฟชั่นจากขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว แบรนด์ F&F แบรนด์ดังจากอังกฤษ ออกสู่ตลาดด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหล่านี้เป็นต้น
“ของพวกนี้เรียก ขยะ หรือ? ถ้าในประเทศนี้ หรือในโลกใบนี้ยังมีคนเข้าใจว่านี่คือ ขยะ ก็ขอให้เขาเข้าใจเป็นอย่างนั้น เพราะนี่คือการเติบโตของวงษ์พาณิชย์” เขาบอก
เพราะนั่นคือ “โอกาส” ของธุรกิจรีไซเคิลขยะ ที่ไม่ได้เพียงมีสัญญาณที่ดี หรือมีมากขึ้นเท่านั้น แต่คือคำว่า “มากมายมหาศาล”
ที่มาของการขยับกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อเชื่อมจิ๊กซอร์แฟชั่นรักษ์โลก เขาเริ่มจากการทำสิ่งที่เรียกว่า “จอยท์เวนเจอร์แบรนด์”
เราเลยได้เห็น ขวดพลาสติก PET ของน้ำดำชื่อดัง “เป๊บซี่” ที่จำหน่ายทั้งในไทยและหลายประเทศในอาเซียน ที่ไม่ได้มีแค่โลโก้ของเป๊บซี่ที่ข้างขวด ทว่ายังมีโลโก้ของวงษ์พาณิชย์ประทับอยู่ด้วย เขาบอกว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับ เป๊ปซี่-โคล่า ในครั้งนี้ ก็เพื่อร่วมกันส่งเสริมการคัดแยกและนำขวด PET ใช้แล้วเข้าสู่วงจรรีไซเคิลอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจด้วยการ เพิ่มราคารับซื้อขวด PET ของผลิตภัณฑ์ในเครือเป๊ปซี่โคล่าอีกกิโลกรัมละ 1 บาท จากราคากลางรับซื้อขยะรีไซเคิลของวงษ์พาณิชย์ พร้อมรณรงค์ให้ร้านค้าและผู้บริโภคร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการรีไซเคิลไปพร้อมกันด้วย
“ในแต่ละเดือนมีเป๊บซี่เกิน 100 ล้านขวด ที่ออกไปในตลาด ซึ่งเราจะไม่ยอมให้สินค้าชนิดนี้ไปที่หลุมฝังกลบขยะอีกต่อไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการร่วมมือครั้งนี้คือ การเก็บรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติ ที่กระจัดกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทยและโลกใบนี้ ให้เข้าสู่ระบบของการบริหารจัดการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม”
เมื่อการทำงานไม่ได้โดดเดี่ยว แต่คือการผนึกกำลังกับต้นทางผู้ผลิตสินค้า พวกเขาก็หวังว่า จะทำให้ขวด PET กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างเป็นระบบมากขึ้น เพื่อช่วยลดปริมาณขยะ และส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประโยชน์สูงสุด และช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นี่คือหนึ่งตัวอย่าง ของการทำงานแบบวงษ์พาณิชย์ ที่มีเป้าหมายไกลกว่า การทำธุรกิจรีไซเคิลขยะ หรือผลกำไรทางธุรกิจ แต่คือการเป็น ‘ธุรกิจประชาสังคมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน’
“เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่เราอยู่ในกระบวนการของสังคมขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งภาคชุมชน รัฐ เอกชน อุตสาหกรรม และการศึกษา แล้วสังคมต้องการอะไร ต้องการความปลอดภัย อากาศที่ดี ไม่สร้างมลพิษ ไม่ทำร้ายบ้านของเราก็คือโลกใบนี้ ซึ่งนั่นก็คือเป้าหมายของเรา ที่ต้องการเป็นธุรกิจประชาสังคมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”
ดร.สมไทย บอกเราว่า เขาเริ่มต้นธุรกิจจากความเมตตา และความเมตตาที่ว่านี้ ก็ไม่ได้หวังให้เกิดกับคนแค่ 1-2 คน แต่เป้าหมายก็คือ ทำอย่างไรที่จะเมตตาคนได้ทั้งโลกใบนี้ นั่นคือ ทำให้ทุกคนได้รู้จักพวกเขามากขึ้น และรู้ว่า ขยะมีค่า ขยะคือทองคำ ขอให้อย่าทิ้งขยะ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริง ของนักจัดการขยะอย่างพวกเขา
การเป็นธุรกิจประชาสังคมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย เขายอมรับว่า ต้องอาศัยการค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ และขยับผลของมันให้เติบใหญ่ขึ้น แต่ถ้าให้มองถึงเทรนด์ ณ วันนี้ เขาบอกว่า เรื่องของ “3R” หรือ Reduce ,Reuse และ Recycle (ลดการใช้, ใช้ซ้ำ ,นำกลับมาใช้ใหม่) กำลังรุกเข้ามาในเมืองไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโลก รักษาทรัพยากร การเข้าสู่สังคมทรัพยากรหมุนเวียน การจัดซื้อสีเขียวนานาชาติ(Green Purchasing) ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ ที่ล้วนมาจากพื้นฐานความคิดเรื่อง “Eco Design” หรือการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม
“สิ่งเหล่านี้กำลังเริ่มเข้ามา ซึ่งวันนี้ใครยังไม่คิดเรื่องอีโคดีไซน์ สินค้าของคุณก็จะถูกผลักดันให้ออกไปจากห้างฯ และไม่สามารถเข้ามาในห้างฯใหญ่ๆ ได้อีก และความคิดของห้างฯ เขาเร็วมาก ยิ่งเมื่อมีเรื่องจัดซื้อสีเขียวนานาชาติ ที่กำลังเข้ามาในไทย ในไม่เกิน 5-10 ปีนี้ ใครไม่เปลี่ยน จะได้เห็นภาพนี้แน่นอน”
นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในสังคมของพวกเรา เมื่อวันที่ “สีเขียว” เริ่มชัด และมีความหมายมากขึ้น สิ่งที่เป็นทางเลือกให้ปฏิบัติ ก็จะเริ่มมีทางบังคับให้ต้องทำตาม เพื่อร่วมเปลี่ยนโลกใบใหญ่ให้สู่สังคมสีเขียวโดยแท้จริง
ก่อนจบเรื่องราว ผู้บริหารวงษ์พาณิชย์ หยิบยกโลโก้ของพวกเขา ขึ้นมาบอกเล่าถึงความหมาย สัญลักษณ์ตัวอักษร “W” มาจากคำว่า World ซึ่งหมายถึง โลก ขณะรูปมงกุฎ ก็คือสัญลักษณ์ของ King หรือ พระราชา รวมความหมายว่า “พระราชาผู้ทำความสะอาดโลก”
ซึ่งนั่นก็ตอบทุกอย่างแล้วในความเป็นตัวตนของพวกเขา







