กสิกรไทยออกหุ้นกู้สกุลตปท.

นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินต่างประเทศ มูลค่ารวม 2.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากเห็นความต้องการออกไปลงทุนต่างประเทศของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่ความต้องการสินเชื่อในประเทศมีไม่มากนัก โดยสินเชื่อที่ธนาคารตั้งเป้าหมายไว้ต่ำกว่า 8% ในปีนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากสินเชื่อต่างประเทศ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าปีนี้ความต้องการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่ามีความชัดเจนมากขึ้น โดยอยู่ในขั้นของการตัดสินใจเข้าไปลงทุน เทียบกับปีที่ผ่านมาที่นักลงทุนอยู่ในขั้นของความสนใจเท่านั้น ซึ่งสัดส่วนลูกค้าที่ตัดสินใจเข้าไปลงทุนมีเพิ่มขึ้นเป็น 45% จากปีที่ผ่านมาที่มีเพียง 20-30% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขนาดกลางถึงใหญ่ที่เข้าไปทำการค้าที่เริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายกว่า

เขายอมรับว่า ส่วนเอสเอ็มอี ยังมีอุปสรรคที่จะเข้าไปทำธุรกิจค่อนข้างมาก ซึ่งการที่ลูกค้าเข้าไปทำการค้าเป็นหลักทำให้ในแง่ของเม็ดเงินลงทุนยังไม่ชัดเจนมากนัก เพราะไม่ได้เป็นลักษณะของการลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ การเข้าไปทำธุรกิจในพม่าส่วนใหญ่ จะเข้าไปลงทุนในลักษณะการร่วมลงทุนกับภาคธุรกิจของพม่า เพื่อตัดปัญหาในเรื่องของความไม่ชัดเจนในเรื่องของกฎหมาย และเรื่องของค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าเช่าที่ดินที่สูงมาก หรือธุรกิจไทยที่มีพันธมิตรเป็นญี่ปุ่นอยู่แล้วจะตามพันธมิตรเข้าไปลงทุนไปพม่าด้วย โดยธุรกิจที่เข้าไปได้ทันทีเช่น ค้าขาย สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการแพทย์และก่อสร้าง นอกจากนี้ธุรกิจพลังงานมีความสนใจค่อนข้างมาก โดยมีการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในท้องถิ่น และขอสินเชื่อเข้ามาเช่นกัน

ด้านนายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท อมตะ บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทสนใจเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ในประเทศพม่า โดยร่วมทุนกับพันธมิตรในท้องถิ่น ในเบื้องต้นบริษัทคาดว่า จะลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 500 เมกกะวัตต์ โดยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อประมูลใบอนุญาตในโครงการแรกที่คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 12,000-14,400 ล้านบาท ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษติลาวา ซึ่งใกล้กับเมืองย่างกุ้ง เพื่อส่งไฟฟ้ากลับเข้ามาใช้ในเมืองหลวงของพม่า สำหรับเงินทุนคาดจะเป็นการขอสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย

"ในระยะแรก พม่ายังสนใจสร้างโรงงานพลังงานหลักก่อน เพราะเป็นช่วงพัฒนาประเทศ ยังต้องการเสถียรภาพด้านพลังงาน แต่เชื่อว่าหลังจากนี้คงจะเห็นความสนใจที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนได้ในอนาคต"

ส่วนการลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น คาดว่า จะดำเนินการได้ 2 โครงการ จากเดิมที่วางแผนไว้ 3 โครงการ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องที่ดินที่ใช้สร้างโครงการ โดยรวมเม็ดเงินลงทุนทั้งในประเทศพม่าและญี่ปุ่นแล้ว คาดจะใช้เม็ดเงินประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท