'พราวพุธ ลิปตพัลลภ'ดีเวลลอปเปอร์คุณหนู

หัวเรือใหญ่คุมเรียลเอสเตทถูกจับจ้องฐานะลูกสาวนักการเมือง ทั้งต้นทุนและแรงผลักให้ลุกขึ้นมาลบภาพคุณหนู ท้าทายปั้นแลนด์แบงก์'พราว เรียลเอสเตท'
พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการผู้จัดการบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด นามสกุลของเธอคนรู้จักกันแทบทั้งประเทศ ใช่แล้วเธอคือลูกสาว สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองชื่อดังแห่งเมืองย่าโม โคราช ที่เป็นทั้งอดีตส.ส. และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย
อีกตำแหน่งเธอยังเป็น "หัวเรือใหญ่" ผู้เนรมิตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์ "พราว เรียลเอสเตท" น้องใหม่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ตั้งมาตั้งแต่ปี 2555 หรือเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยรวบที่ดินกว่า 10 แปลงที่ว่ากันว่าเฉพาะราคาที่ดินรวมมูลค่าราวกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นมรดกสะสมตั้งแต่รุ่นคุณย่า "จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ" ผู้ก่อตั้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในกลุ่ม "ประยูรวิศว์" กับคุณพ่อที่ชอบช้อปที่ดินทำเลทองในหลายต่อหลายแปลง
ความเป็นลูกสาวนักการเมือง ตามมาด้วย ทัศนคติทั้งเชิงคาดหวัง และอคติเชิงดูแคลนว่าอายุน้อยแต่ขึ้นมาเป็นผู้นำธุรกิจ บทวิพากษ์ก่อนจะรู้จักตัวตนของเด็กสาววัย 25 ปีผู้นี้
ข้อที่หลีกหนีไม่พ้นคือคำปรามาส ลูกคุณหนู ไม่เชื่อมือทำงาน น้องพราว เปิดปากเล่าอย่างไม่สนคำวิจารณ์ ตรงกันข้ามอคติจากใครที่ได้ยิน เธอเก็บมาเป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นปั้นแบรนด์ “พราว” กับเป้าหมายการปั้นให้บริษัทอสังหาแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในระดับประเทศภายใน 3-5 ปีจากนี้
“ห้ามไม่ได้ที่ใครเห็นนามสกุลแล้วจะถูกมองทันทีว่าลูกคุณหนู จะทำได้ไหม ไหวหรือเปล่า กลายเป็นแรงผลักให้เราต้องพิสูจน์ตัวเอง จากผลงาน " พราวพุธ สาวน้อยดีกรีเศรษฐศาสตร์ ออกซ์ฟอร์ด ต่อด้วยปริญญาโท การบริหารจัดการบิสสิเนส สคูล จากอังกฤษ เล่า
เธอแจกแจงอีกว่า อีกข้อครหาหนึ่งคือการตั้งข้อสังเกตในฐานะครอบครัวนักการเมือง ทั้งที่แท้จริงแล้ว ตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นคุณปู่คุณย่าไล่ลงมาถึงเจน 2 รุ่นคุณพ่อและพี่น้อง (อา) เป็นครอบครัวทำธุรกิจเป็นหลัก
"มีแค่คุณพ่อ (สุวัจน์) ที่เข้าสู่ถนนนักการเมืองเต็มตัว"
เธอเล่าว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้พราวพุธ เลือกเป็นนักธุรกิจมากกว่านักการเมือง มาจากคุณรุ่นคุณปู่คุณย่า มีตำนานการต่อสู้ล้มลุกคลุกคลานจากมีเรือลำเดียวกลายเป็นนักธุรกิจหลายหมื่นล้าน
“การเมืองคือเรื่องที่สนใจเพราะเป็นบทสนทนาระหว่างร่วมโต๊ะกินข้าวกับคุณพ่อ แต่ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำแม้จะมีคนมาชวน แต่ธุรกิจเป็นสิ่งที่อยากทำ เห็นคุณปู่คุณย่าสร้างกิจการหลายหมื่นล้าน ส่งเราไปเรียนเมืองนอก ถ้าเราจะอยู่อย่างสบายก็ละอายใจ"
น้องพราวกระโดดเข้าสู่แวดวงธุรกิจ ฐานะตัวแทนทายาทเจน 3 คนแรกที่รับช่วงมรดกที่ดินของตระกูล สร้างมูลค่าเพิ่มบนที่ดินแปลงงามตามแหล่งท่องเที่ยว ประเดิมด้วยโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน โรงแรมเชนต่างชาติ เนื้อที่ 12 ไร่ เปิดบริการตั้งแต่ปี 2552 ยุคแรกที่ใช้การบริหารงานโดยการเอาท์ซอร์สทีมงานมืออาชีพ
เธอบอกว่า ความสำเร็จของโรงแรมอินเตอร์คอนฯ มาจากแบรนด์ที่ดี มีกลุ่มลูกค้าทั่วโลก โดยเป็นการพัฒนาที่ดิน 12 ไร่ สร้างห้องพักเพียง 119 ห้อง ทั้งที่ขึ้นห้องพักได้มากถึง 300 ห้อง เพื่อจัดสรรพื้นที่ที่เหลือเป็นส่วนกลางให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ สระว่ายน้ำ ร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ พร้อมบริการรถรับส่งโรงแรม
“เราต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การมาพักผ่อนจริงๆ ไม่ใช่ไปแล้วเจอแต่คน” พราวพุธแจงสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าติดใจจนบอกต่อ
โครงการถัดมาที่พราวพุธเริ่มบริหารเต็มตัว คือ ที่ดินแปลงตรงข้ามกับอินเตอร์คอนฯ เนื้อที่ 20 ไร่ ในชื่อ โครงการบลูพอร์ต (Blue Port Resort Mall) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพิ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนต.ค.2555 คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี เป็นโครงการร่วมทุนกับเดอะมอลล์ กรุ๊ป ของศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัดและ ดิ เอ็มโพเรียม ชอปปิง คอมเพล็กซ์ จำกัด เจ้าแม่ห้างสรรพสินค้ามือบริหารขั้นเทพ ที่มีสายสัมพันธ์ (Connection) สนิทสนมกับคุณพ่อของเธอ
“บางโครงการที่เราไม่ชำนาญอย่างค้าปลีกไม่เคยทำมาก่อนก็ต้องเข้าไปเรียนรู้จากพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นผู้ชำนาญอย่างเดอะ มอลล์ กรุ๊ป”
ที่ดินแปลงถัดไปไม่ไกลกันนัก ผุดโครงการในชื่อ "วานา นาวา" (Vana Nava) หัวหิน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรก สร้างสวนน้ำคอนเซ็ปต์ธรรมชาติสไตล์ป่าเขาแห่งแรกของเอเชีย “วานา นาวา หัวหิน วอเตอร์ จังเกิ้ล” (Water Jungle) มูลค่า 750 ล้านบาท เปิดตัวในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2557
พราวพุธ บอกว่า โครงการนี้เธอได้โมเดลจากการไปดูสวนน้ำในอเมริกา และในจีน เป็นสวนน้ำที่อยู่ห่างจากเมืองไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง แต่กลับมีคนเข้าไปท่องเที่ยวเต็มตลอดปี ไม่ว่าจะในหรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
สวนน้ำแห่งนี้ยังตั้งเป้าหมายไว้สูงลิ่ว ที่จะดึงคนไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคนในปีที่ 3 โดยกางแผนกลยุทธ์จะใช้โครงการมิกซ์ยูสเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คน เมื่อพื้นที่มีหลากหลายกิจกรรม ก็ออกแบบกลยุทธ์แพ็คเกจห้องพักพร้อมกับส่วนลดสวนน้ำ เรียกความสนใจ ประจวบเหมาะกับโครงการรอบพื้นที่สร้างเสร็จปี 2559 เปิดตัวโครงการเฟสที่ 2 โรงแรม 400 ห้องเสร็จ ตามมาด้วยเฟส 3 โครงการที่พักอาศัย (คอนโดมิเนียม) ที่จะเปิดในปี 2560 ตามกันมาติดๆ จะเป็นแรงสมทบให้สวนน้ำดึงคนได้ตามแผน
“โปรเจคเป็นมิกซ์ยูส รวมคอนโด โรงแรม สวนน้ำ และลูกค้าในห้างสรรพสินค้า ขอแค่เป้าหมาย10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในหัวหิน 3 ล้านคน ก็ราวๆ ประมาณ 3 แสนคนก็พอแล้ว"
พราวพุธ เล่ายังถึงเหตุผลที่กล้าพัฒนาโครงการติดต่อกันในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าอย่างไม่กลัวพลาดว่า เพราะรู้ดีว่าหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับหนึ่งในห้า ปลายทางยอดนิยม (Destination) ตลอดปี ผนวกกับจุดแข็งของการเป็นกลุ่มธุรกิจแบบบริหารจัดการทุกอย่างเพียงรายเดียว ทำให้สามารถออกแบบโครงการให้เกื้อหนุนธุรกิจกันและกันได้หมด
“หากเข้าพักอินเตอร์คอนฯ ก็เสนอแพ็คเกจเข้าเล่นสวนน้ำใครก็อยากได้ ซึ่งโรงแรมอื่นไม่มีบริหารอย่างนี้”
เธอยังเชื่อว่า โครงการต่างๆผ่านการศึกษามาอย่างดีจึงกล้าลงทุน และที่เลือกลงทุนในหมวดท่องเที่ยวเพราะเชื่อว่ายังไปได้สวยสำหรับเมืองไทย และหากธุรกิจไม่เป็นอย่างหวังก็ไม่เป็นไร
...เพราะด้วยวัยวุฒิที่ยังน้อยยังมีโอกาสแก้ตัว โดยมีครอบครัวเป็นกองหนุนสำคัญ







