นกแอร์เข้าเทรดวันแรกเหนือจองเล็กน้อย

บรรยากาศการการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ NOK วานนี้ (20 มิ.ย.) เปิดการซื้อขายด้วยราคา 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.88%

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บริษัท สายการบินนกแอร์ (NOK) เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจกับราคาซื้อขายวันแรก เพราะภาพรวมตลาดปรับตัวลดลงตั้งแต่เริ่มเปิดการซื้อขาย แต่ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทกลับปรับเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมองหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐาน และไม่ได้มองในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้ โดยส่วนตัวไม่กังวลเรื่องราคาหุ้นเพราะเข้าใจว่าสภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นล้วนมีขึ้นมีลง จึงอยากให้มองพื้นฐานในระยะยาวของบริษัทเป็นหลัก

เขากล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้บริหารและกรรมการ สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีใครขายหุ้นออกมา และส่วนตัวก็ได้ลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มในช่วงขายไอพีโอด้วย 70,000 หุ้น ที่ราคาไอพีโอ เพราะอยากให้ลงทุนมั่นใจ ทั้งในแง่ปัจจัยพื้นฐานและผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล โดยปีนี้ บริษัทมีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งนี้ เดิมนายพาที ถือหุ้นในสัดส่วน 4%

แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2556 บริษัทเชื่อมั่นว่าจะออกมาดี หลังจากที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 ที่ผ่านมา มีกำไร 415.84 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดี หลังที่บริษัทได้เพิ่มจำนวนฝูงบิน และเปิดเส้นทางบินใหม่ โดยปัจจุบันบริษัทมีฝูงบิน 12 ลำ และเครื่อง ATR 2 ลำ วางเป้าหมายว่าภายในปี 2558 จะมีฝูงบินทั้งสิ้น 30 ลำ และในปีหน้า คาดว่าจะสามารถเปิดเส้นทางใหม่ในประเทศได้อีก 3 เส้นทาง ประกอบด้วย กระบี่ ลำปาง และสุรินทร์

ทั้งนี้ บริษัท สายการบินนกแอร์ มีทุนชำระแล้ว 625 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่ม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 125 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 187.5 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 26 บาท แย่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 12 ล้านหุ้น มูลค่า 3,250 ล้านบาท และหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยบริษัท Aviation Investment International จำกัด จำนวน 62.5 ล้านหุ้น มูลค่า 62.5 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 4,875 ล้านบาท เสนอขายเมื่อวันที่ 12-14 มิ.ย. 2556 โดยมีธนาคารพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย