ลุ้น "จีน" นำทัพทัวริสต์แห่เยือนไทย ปลุกโรงแรม 7.7 แสนล้านฟื้นเต็มร้อยปี 67

ลุ้น "จีน" นำทัพทัวริสต์แห่เยือนไทย ปลุกโรงแรม 7.7 แสนล้านฟื้นเต็มร้อยปี 67

แนวโน้ม “ตลาดโรงแรมที่พัก” ในประเทศไทยซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่ามีมูลค่ากว่า 7.7 แสนล้านบาทเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ทาง มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัว 70% ในปีนี้ และกลับมาฟื้นตัว 100% ในปลายปี 2567

“ปัจจุบันโรงแรมหรู 5 ดาวขึ้นไปกลับมาทำราคาห้องพักได้ดีกว่าปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดด้วยซ้ำ! ส่วนโรงแรมทั่วไปที่มีซัพพลายห้องพักจำนวนมากในตลาด แม้ราคาห้องพักยังไม่กลับมาปกติ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงค่อนข้างมากแล้ว ขึ้นกับศักยภาพของโรงแรมนั้นๆ ในการแข่งขันช่วงชิงนักท่องเที่ยว เช่น รีโนเวตโรงแรมให้ดูใหม่สดน่าพัก”

ขณะเดียวกัน “เชนโรงแรม” ระดับอินเตอร์เนชันแนล ยังคงเดินหน้าเปิดโรงแรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้อยู่รอดจากสมรภูมิการแข่งขัน ได้รุกทำการตลาดดึงดูดนักท่องเที่ยวไปยังจุดหมายนั้นๆ จะเห็นได้ว่าใน “เมืองรอง” เช่น เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีเชนโรงแรมเข้าไปรุกทำการตลาดมากขึ้น

สำหรับภาพรวมธุรกิจโรงแรมที่พักในประเทศไทยช่วง “ไตรมาส 2” ซึ่งเข้าสู่ “โลว์ซีซัน” คาดการณ์ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียกว่า 60% สร้างอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 50-60% แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไฮซีซันในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว จากปัจจัยการฟื้นตัวด้านดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากฝั่ง “เอเชียตะวันออก” เช่น “นักท่องเที่ยวจีน” ที่น่าจะเห็นการหลั่งไหลเข้าไทยมากขึ้น หลังรัฐบาลจีนเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการให้ชาวจีนออกเที่ยวต่างประเทศได้ ทั้งแบบเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) และกรุ๊ปทัวร์ ทำให้โรงแรมที่เคยรับเฉพาะตลาดกรุ๊ปทัวร์จีนเริ่มฟื้น ด้านนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็น่าจะมีอัตราการเติบโตโดดเด่น เนื่องจากฐานยังค่อนข้างต่ำในช่วงที่ผ่านมา

ด้านนักท่องเที่ยวจากอินเดียและตะวันออกกลาง คาดเดินทางเข้าไทยในไตรมาส 2 มากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดนี้นิยมเดินทางเข้ามาอยู่แล้ว ประกอบกับรัฐบาลอินเดียเพิ่งปลดล็อกมาตรการเดินทาง ไม่ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางจากไทยกลับเข้าอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา

“จำนวนเที่ยวบินของตารางบินฤดูร้อน 2566 ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ถึงปลายเดือน ต.ค.นี้ คาดว่าจะฟื้นตัว 70-80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในไตรมาส 2”

สุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางบินไทย-จีน คาดจำนวนเที่ยวบินฟื้นตัวเป็น 60-70% เมื่อเทียบกับภาวะปกติ เพิ่มจากปัจจุบันซึ่งฟื้นตัว 25% หลังบางสายการบินวางกำหนดกลับมาทำการบินเส้นทางต่างๆ ตั้งแต่เดือน มี.ค. หรือ เม.ย.นี้เป็นต้นไป ขณะที่บางสายการบินได้กลับมาทำการบินตั้งแต่ไตรมาส 1 แล้ว เช่น “ไห่หนาน แอร์ไลน์ส” (Hainan Airlines) กลับมาทำการบินเข้าไทยอีกครั้ง เส้นทาง Haikou เกาะไหหลำ – กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) จำนวน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันพฤหัสบดีกับเสาร์ เริ่มทำการบินเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา

“การกลับมาทำการบินเส้นทางต่างๆ ระหว่างไทย-จีน แน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมที่พักซึ่งส่วนใหญ่มีนักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดหลัก อย่างโรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนห้องพักกว่า 600 ห้อง เคยมีนักท่องเที่ยวจีนมากเป็นอันดับ 1 เมื่อปี 2562 ครองสัดส่วน 25% ก็พร้อมต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าราคาห้องพักเฉลี่ย (ADR) น่าจะค่อยๆ ขยับได้มากขึ้นในไตรมาส 2 เพิ่มจากปัจจุบันฟื้นตัว 70% ของราคาเดิมที่เคยได้ ขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยคาดอยู่ที่ราว 80% ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา”

ด้าน ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 1 ปีนี้ ททท.คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 6 ล้านคน หลังจาก 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) มีจำนวนสะสมแล้ว 4 ล้านคน เฉพาะเดือน ม.ค. มีจำนวน 2,088,832 คน และเดือน ก.พ. ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1-26 ก.พ. มีจำนวน 1,928,079 คน

          สำหรับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด “5 อันดับแรก” ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.พ. พบว่าอันดับ 1 คือ มาเลเซีย 503,725 คน อันดับ 2 รัสเซีย 375,812 คน อันดับ 3 เกาหลีใต้ 316,934 คน อันดับ 4 จีน 231,858 คน และอันดับ 5 อินเดีย 192,192 คน

          ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ เช่น อาเซียน อินเดีย และจีน โดย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผลการตรวจ RT-PCR แก่ “นักท่องเที่ยวจีน” ก่อนเดินทางกลับประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1% และหวังว่าทางการจีนจะพิจารณายกเลิกมาตรการนี้ เอื้อต่อกระแสการเดินทางมาไทยมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ททท.ได้จัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่ประเทศจีน หนึ่งในเมืองที่จัดงานคือนครเซี่ยงไฮ้ ก่อนวิกฤติโควิด-19 พบว่าเฉพาะการเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ มีจำนวนเที่ยวบินกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พอเกิดการระบาด เหลือแค่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แม้ตอนนี้จะเริ่มกลับมาทำการบิน พบว่ามีแค่ 95 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ยังห่างไกลจากที่เคยทำการบิน

“ขณะที่ตลอดปี 2566 ททท.ยังคงเป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในกรณีดีที่สุดคาดได้ 25-30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้ามีอย่างน้อย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.8 แสนล้านบาท”

ในช่วงที่ต้องเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันช่วงชิงนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ!