Property Sector - ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ
AREA รายงานกิจกรรมการเปิดโครงการใหม่ฟื้นตัวกลับมาอยู่ระดับเท่ากับก่อนเกิดโรคระบาดติดต่อกันมาสองเดือนแล้ว แต่อุปสงค์ยังค่อนข้างอ่อนแออยู่ นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการอนุมัติต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯออกไปอีกหนึ่งปี
แต่เรามองว่าผลกระทบน่าจะน้อย ทั้งนี้ เนื่องจากเรามองว่าวัฎจักรขาลงจะกินเวลานานขึ้น เราจึงยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ NEUTRAL โดยเลือก AP และ LH เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้
การเปิดโครงการใหม่ฟื้นกลับไปอยู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว
Agency for Real Estate (AREA) รายงานผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯเปิดโครงการใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดอีก 12,658 ยูนิตช่วงเดือนมิถุนายน 2022 โดยเพิ่มขึ้น 19% mom และ 72% yoy ทั้งนี้ ยอดเปิดโครงการใหม่รายเดือนได้ฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ 10,000 ยูนิต ติดต่อกันมาสองเดือนแล้ว ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยต่อเดือนก่อนเกิดโรคระบาด อย่างไรก็ตาม อุปทานใหม่ยังคงเน้นที่ตลาด mass market หรือกลุ่มที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยอัตรา Take-up rate ลดลงมาอยู่ที่ 20% ในเดือนมิถุนายน จาก 28% ในเดือนพฤษภาคม และ 25% ใน 1H22 ซึ่งอัตรา take-up rate ที่ลดลงหลักๆเป็นเพราะมีโครงการเปิดใหม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ขณะที่อุปสงค์ยังฟื้นตัวค่อนข้างช้าทำให้อัตราดูดซับปรับตัวลง
รัฐบาลต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯออกไปอีกหนึ่งปี
รัฐบาลอนุมัติต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯออกไปอีกหนึ่งปี โดยมาตรการรวมถึงการขยายระยะเวลาปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองลงจาก 2% และ 1% เหลือ 0.01% โดยตามกำหนดเดิมจะสิ้นสุดปลายปีนี้จะถูกต่อออกไปเป็นสิ้นปี 2023 เรายังคงมองว่ามาตรการนี้จะไม่ได้ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ที่อยู่อาศัยได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะมาตรการนี้เน้นเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ส่วนลดค่าธรรมเนียมเพียง 2-3% จากมาตรการนี้ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ส่วนลดเองยังไม่สามารถจูงใจได้พอ กอปรกับกลุ่มนี้ได้ผลกระทบจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเรามองว่ามาตรการนี้ซึ่งมุ่งเสริมกำลังซื้อให้กับผู้มีรายได้น้อยจะถูกลบล้างด้วยผลกระทบจากกลยุทธ์ของภาครัฐที่ต้องการจะดึงดูดผู้ซื้อชาวต่างชาติเข้ามาในไทย ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้ความสามารถในการซื้อของคนในประเทศลดลง
คงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ NEUTRAL มองวัฎจักรขาลงจะกินเวลานานขึ้น
เราคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ NEUTRAL เพราะมองว่าวัฎจักรขาลงจะกินเวลานานขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ยังคงอ่อนแอ ในขณะที่มีปริมาณที่อยู่อาศัยค้างสต็อกที่ยังขายไม่ออกอยู่ในระบบอีกค่อนข้างมาก เราประเมินว่าการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯจะส่งผลบวกไม่มาก ในขณะเดียวกัน กลยุทธ์ของรัฐบาลที่ใช้กระตุ้นอุปสงค์จากต่างประเทศไม่น่าจะสามารถสร้างความตื่นเต้นได้ในระยะสั้นเนื่องจากยังคงมีมาตรการ lockdown ในประเทศจีน และหลายประเทศยังคงใช้มาตรการที่เข้มงวดในการดูแลการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี เราคิดว่านโยบายกระตุ้นอุปสงค์จากต่างประเทศนี้อาจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างในอนาคตและอาจทำให้ความสามารถในการซื้อบ้านของคนในประเทศลดลง ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากสังคม
