บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไตรมาส 3 ปี 65 แกว่งลง เฟ้น 4 กลุ่มรับมือศก.ถดถอย

บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไตรมาส 3 ปี 65 แกว่งลง เฟ้น 4 กลุ่มรับมือศก.ถดถอย

บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นไตรมาส 3 ปี 2565 ยังถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แนะปรับกลุยทธ์มอง 4 กลุ่มน่าลงทุนรับมือเศรษฐกิจถดถอย ได้แก่ โรงพยาบาล, ไอซีที, ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค และโรงไฟฟ้า

บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 จะแกว่งตัวลง (Sideway Down) จากตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่ายังชะลอตัว ประกอบกับยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยแทนอย่างตลาดพันธบัตร

เห็นได้จาก Bond Yields สหรัฐปรับลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Bond Yields อายุ 2 ปี หลุด 3% อีกครั้ง จากช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ทำจุดสูงสุดที่ 3.45% เช่นเดียวกับ Bond Yields อายุ 10 ปี ปรับลงมาอยู่ที่ 3.02% จากกลางเดือน มิ.ย.ที่ทำจุดสูงสุดที่ 3.5%

ส่งผลให้ US 10-2 Year Treasury Yield Spread ลงมาใกล้ 0 มาอยู่ที่ 0.6 bps หรือใกล้กลับมา Inverse หรือติดลบอีกครั้ง ซึ่งจากสถิติช่วงที่ US Yield spread เข้าใกล้ศูนย์หรือติดลบ ตลาดจะยังกังวลต่อว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือ Recession ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

โดย KS ประเมินตามทฤษฎีในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย Sector หุ้นที่จะ Outperform หลักๆ กลุ่ม Defensive ได้แก่ 

1.) กลุ่ม Healthcare กลุ่มโรงพยาบาล (คำแนะนำปัจจุบัน KS แนะนำลงทุน โรงพยาบาลเงินสดได้อานิสงค์เปิดเมือง อาทิ BDMS, BH โรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จีนเปิดประเทศ อาทิ EKH   

2.) กลุ่ม ICT แนะนำลงทุน  TRUE, DTAC 

3.) กลุ่ม Consumer Staples อาทิ CPALL

4.) กลุ่ม Utilities กลุ่มโรงไฟฟ้าแนะนำ BGRIM, GPSC, GULF 

ส่วนกลุ่มที่จะ Underperform ช่วงเศรษฐกิจถดถอย อาทิ กลุ่ม Global Play อาทิ กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มส่งออกยานยนต์ แนะนำเก็งกำไรในช่วงสั้น แต่ชะลอการลงทุนระยะยาว   

อย่างไรก็ตามประเมินว่าตลาดหุ้นช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 จะเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากมองว่าประเด็นเงินเฟ้อจะลดแรงกดดันลง โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ค. ประเมินว่ายังผันผวน แนวรับสำคัญของ SET Index รอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1,500 จุด และ 1,535 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,585 จุด และ 1,616 จุด  โดยปัจจัยบวกทางพื้นฐานที่หนุนตลาดหุ้นช่วงนี้  คือ ความคาดหวังจากภาคท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวหลังจากจีนเปิดเมืองและเริ่มผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ  

แต่ประเด็นที่ต้องติดตามซึ่งเป็นความเสี่ยงกดดันตลาด  คือ การระบาดโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ฯลฯ

โดยมีหุ้น Top pick ได้แก่

 BGRIM (ราคาเป้าหมายที่ 61.50 บาท)

  • ทิศทางราคาพลังงานน้ำมันดิบ, ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเริ่มชัดเจนจะเป็นขาลงจะบวกต่อ BGRIM 
  •  กำไรในงวด 1Q65 เคาดเป็น Bottom แล้ว และในไตรมาสถัดๆ ไป 2Q-3Q65 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนโดยได้ประโยชน์จากค่า Ft ที่กำลังเป็นขาขึ้น 

PSL (ราคาพื้นฐาน 25.50 บาท)

  • รัฐบาลจีนเดินหน้าผ่อนคลายเปิดเมือง, ผ่อนคลายลดจำนวนวันกักตัวสำหรับคนที่จะเดินทางเข้าประเทศเหลือ 10 วัน จาก 21  วัน และกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังและการเงิน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน คาดจีนจะต้องเร่งนำเข้าสินค้าพวก raw material มากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนทิศทางดัชนีค่าระวางเรือ BDI เร่งตัวขึ้นใน 2Q65
  • Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ คือ เรือใหม่ 2 ลำ (จากปัจจุบันที่มีเรือ 36 ลำ) ที่ PSL เพิ่งซื้อมาจะทยอยรับมอบ 1 ลำปลาย  2Q65 และอีกลำใน 3Q65
  • สำหรับ PSL แนะนำใช้กลยุทธ์ "Trading หรือ ลงซื้อขึ้นขาย"  ตามกรอบ PBV band ที่ 18/20.5/23/25.5 บาท หรือ +0.5 SD ถึง +2 SD 

CBG (ราคาพื้นฐาน 124 บาท)

  • คาดกำไรสุทธิจะฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 2Q65 เป็นต้นไป จากความต้องการเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นจากการเปิดเมือง
  • มี Catalyst หนุนราคาทั้งจาก 1.) ราคาอะลูมิเนียมซึ่งเป็นต้นทุนของบริษัททิศทางปรับตัวลดลงนับจากจุดสูงในรอบ 52 สัปดาห์ลงมาแล้วราว 36%  2.) เศรษฐจีนฟื้นตัวจากการเปิดเมืองและการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายเครื่องดื่มชูกำลัง

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

- 4 ก.ค. : ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของยุโรป (เดือนต่อเดือน) ของเดือน พ.ค. ตลาดคาด 1.3% MoM, การประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 และ 6 เดือนของสหรัฐ

- 5 ก.ค. : ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin (มิ.ย.), ดัชนี PMI รวมจาก S&P Global (มิ.ย.) ตลาดคาดทรงตัวที่ 51.9 จุด, ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของสหรัฐ (เดือนต่อเดือน) (พ.ค.) ตลาดคาด 0.2% MoM

- 6 ก.ค. : รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการก่อสร้าง (Construction PMI) (มิ.ย.) ของอังกฤษ ตลาดคาด 56.6 จุด, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.) ของสหรัฐ, ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (มิ.ย.) ตลาดคาด 55.7 จุด

- 7 ก.ค. : รายงานการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) (มิ.ย.) ของสหรัฐ ตลาดคาด 2 แสนตำแหน่ง, รายงานทิศทางน้ำมันดิบกลั่นจากองค์กร EIA (สัปดาห์ต่อสัปดาห์)

- 8 ก.ค. : ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน (ดอลลาร์สหรัฐ) (มิ.ย.), การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (มิ.ย.) ตลาดคาด 2.95 แสนตำแหน่ง