โควิดคลี่คลาย –ไทยเปิดประเทศ แรงส่งอัญมณีและเครื่องประดับไทยฟื้น

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมส่งออกที่ทำรายได้สูงสุดให้กับประเทศไทยมานานหลายทศวรรษ แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้ยอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยลดลง  โดยเฉพาะการไม่สามารถจัดงานแฟร์หรืองานแสดงสินค้าภายใต้ชื่อ งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ซึ่งถือเป็นงานสำคัญในการดึงผู้ซื้อและผู้ขาย  มาร่วมงานเพื่อยอดขายอัญมณีและเครื่องประดับไทย 

 แต่หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ไทยประกาศเปิดประเทศ ลดมาตรการคัดกรองโควิด -19 เพื่อให้ต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงจะจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) อีกครั้งในช่วงปลายปี เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้กลับมาเป็นปกติ แต่ก่อนจะถึงงานใหญ่ปลายปี ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13–17 มิ.ย.ที่ผ่านมา  บนเว็บไซต์ www.bgjf-vtf.com  เพื่อเป็นการชิมลางก่อน 

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า  การจัดงานรูปแบบออนไลน์ครั้งนี้ ถือเป็นการนำร่องก่อนการจัดงานรูปแบบออฟไลน์ในเดือนก.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการปรับรูปแบบการจัดงาน BGJF มาเป็นงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2563 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดียิ่ง และได้จัดอย่างต่อเนื่องมาครั้งนี้   เป็นครั้งที่ 3 เพื่อสร้างช่องทางและโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการเข้าถึงผู้ซื้อผู้นำเข้าจากทั่วโลก ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้เป็นปกติ 

ทั้งนี้การจัดงานในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้า จากภูมิภาคต่างๆ อาทิ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มาร่วมในการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะเกิดมูลค่าการสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 570 ล้านบาท  

หลังจากการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ครั้งนี้แล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะมีการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 7-11 ก.ย. 2565 ที่อิมแพค เมืองทองธานี หลังเว้นจากการจัดงานเกือบ 2 ปี จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19  โดยขณะนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานกว่า 700 ราย และได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้ชมงานจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมงานกว่า 10,000 ราย ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก คาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีและภายในงานไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท 

การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง จะเป็นเครื่องจักรอีกตัวในขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ  เพราะแค่ตัวเลขส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในช่วง 4 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่า 6,574.87 ล้านดอลลาร์  เพิ่มขึ้น 167.72% หรือคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 213,709.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190.29% หากหักการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป มีมูลค่าเหลือ 2,531.62 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 41.22% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 83,016.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.57% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ในหลาย ๆ ประเทศเริ่มคลี่คลาย มีการเปิดประเทศ การกลับมาของนักท่องเที่ยว ที่ส่งผลให้กำลังซื้อสินค้าไลฟ์สไตล์ ของฝาก อัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มสูงขึ้น  

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2565 ที่ตั้งไว้ที่มูลค่า 234,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20%  ซึ่งก็ไม่น่าจะพลาดเป้าหมาย เพราะจากตัวเลขส่งออก 4 เดือน การส่งออกก็ขยายตัวไปแล้ว 167.72% ปีนี้จึงเป็นปีทองของส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง