เมเจอร์ฯ เปิดตัวMusic Therapy เอาใจทาสสุนัข-แมว

เมเจอร์ฯ เปิดตัวMusic Therapy เอาใจทาสสุนัข-แมว

เมเจอร์ฯ ตอกย้ำผู้นำคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เปิดตัวMusic Therapy เอาใจทาสสุนัข-แมวภายใต้คำแนะนำจากสัตวแพทย์ พร้อมดึงค่ายเพลง Welfare6 สร้างเพลย์ลิสต์ยาว 8 ชั่วโมง ตอบโจทย์เวิร์คฟรอมโฮม

นางสาวอาระตี เบญจาธิกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานสื่อสารการตลาด บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวแคมเปญ #สุขเท่าเทียม สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบ้านและคอนโดมิเนียมที่ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงมีความสุขร่วมกันได้อย่างเท่าเทียมเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด เมเจอร์ฯ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ พัฒนาเพลงเพื่อคนและสัตว์เลี้ยง โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกของสุนัขและแมว เกิดเป็นเพลย์ลิสต์ที่ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงฟังร่วมกันอย่างมีความสุข ภายใต้ชื่อ “MAJOR PETSCAPE presents Music for Dogs & Cats”


“เมเจอร์ฯ ในฐานะผู้นำคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เราคิดถึงทุกรายละเอียดที่จะสร้างความสุขในการอยู่อาศัยให้คนและสัตว์เลี้ยงอย่างเท่าเทียม นอกเหนือไปจากฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เรามอบให้ทั้งในยูนิตและส่วนกลาง ทั้งยังมีสิทธิประโยชน์เพื่อคนรักสัตว์เตรียมไว้ให้อีกมากมาย เพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการคิดทุกมิติเพื่อสัตว์เลี้ยง เราทำโปรเจกต์สนุกๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความสุขแบบเท่าเทียม ที่เมเจอร์ฯ อยากจะทำให้การอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงในคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ของเราสร้างรอยยิ้มและความสุขได้ยิ่งกว่าที่เคย เพราะเป็นเพลงที่คนฟังก็เพราะ สัตว์เลี้ยงฟังก็มีความสุข เราทำดนตรีขึ้นมาใหม่ ”

โดยมีที่ปรึกษาเป็นสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำในการสร้างสรรค์เพลงเพื่อความสุขเท่าเทียมของทุกชีวิต มีความท้าทายในการเรียบเรียงเพลงให้ตอบความสุขของทั้งคน สุนัข และแมว ที่มีลักษณะทางกายภาพแตกต่างกันในการรับฟังเสียง ตั้งแต่คลื่นความถี่ ระดับเสียง จังหวะ แนวเพลง

รวมถึงเครื่องดนตรีที่ใช้ เพลงที่ออกมาจึงมีจังหวะเท่ากับจังหวะการเต้นของหัวใจของสุนัขและแมว มีคลื่นเสียงในระดับที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และเลือกเครื่องดนตรีที่ให้เสียงที่สร้างความผ่อนคลาย ทำให้เพลงเหล่านี้กลายเป็นเหมือนดนตรีบำบัดเบาๆ ให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงฟังอย่างสุขใจไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับแนวคิดในการสร้างคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ของเมเจอร์ฯ เราคิดทุกมิติเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกชีวิตอย่างเท่าเทียม ตอกย้ำจุดยืนของเมเจอร์ฯ ในฐานะผู้นำอันดับ  Pet-Friendly Residences ที่มุ่งมั่นให้ทั้งเจ้าของห้องชุดและสัตว์เลี้ยงได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข 

อาระตี กล่าวว่า เพลงทั้งหมดในโปรเจกต์นี้ ถูกสร้างสรรค์และเรียบเรียงโดยค่ายเพลง Welfare6 เป็นทำนองบรรเลงแนว Lofi Pop และ Chillhop สไตล์ Music Therapy มี 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นสำหรับสุนัข 12 เพลง และแมวอีก 12 เพลง

จัดเตรียมเป็น เพลย์ลิสต์อยู่บนช่องทางต่างๆ ทั้ง Spotify, Joox, Apple Music และยังสามารถเปิดฟังผ่าน Youtube แบบจุใจกับ  เพลย์ลิสต์เวอร์ชั่นวนลูปยาว 8 ชั่วโมง สร้างความเพลิดเพลินให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง

ขณะนั่งทำงาน Work From Home พร้อมมอบความสุขให้กับสัตว์เลี้ยงที่อาศัยร่วมกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ จะมีการนำเพลงดังกล่าว ไปใช้กับพื้นที่ต่างๆ ของพันธมิตรที่มีจุดยืนด้าน Pet-Friendly เช่นเดียวกับเมเจอร์ อาทิ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เพื่อยกระดับพื้นที่แห่งความสุขผ่านเสียงเพลงให้แก่เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้มีความสุขอย่างเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น


ด้าน สพ.ญ.วัลลิยา กาญจนพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร/ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์จัสโก้ ที่ปรึกษาโครงการนี้ กล่าวว่า เสียงดนตรีจากโปรเจกต์ “MAJOR PETSCAPE presents Music for Dogs & Cats” ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่แต่งขึ้นเพื่อสร้างสุขเท่าเทียมให้กับทั้งคนและสัตว์เลี้ยงในครั้งนี้

สะท้อนความใส่ใจอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นปรากฏการณ์อันดีที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่เลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยมากขึ้น ความแตกต่างของขีดความสามารถในการได้ยินเสียงของสุนัขและแมว มีความแตกต่างกับคน การแต่งเพลงเพื่อสร้างความสุขร่วมกันให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงจึงจำเป็นต้องเข้าใจ Insights ของสัตว์เลี้ยงหลายส่วน เช่น สุนัขและแมวชอบดนตรีที่มีจังหวะใกล้เคียงกับจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยสุนัขมีอัตราการเต้นหัวใจที่ 70-120 ครั้งต่อนาที ส่วนแมวมีอัตราการเต้นหัวใจที่ 120-140 ครั้งต่อนาที 

แนวดนตรีที่เหมาะสมคือ คลาสสิก ป๊อป ไปจนถึง Soft String เครื่องดนตรีที่มีเสียงเหมาะสมและสบายต่อการได้ยิน ได้แก่ เช่น เปียโน ไวโอลิน เป็นต้น เพลงที่เรียบเรียงขึ้นใหม่นี้ตอบโจทย์ดังกล่าว และเมื่อนำไปทดลองให้น้องหมาน้องแมวฟัง ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ สัตว์เลี้ยงหลายตัวผ่อนคลายและบางตัวสามารถหลับไปพร้อมกับเสียงเพลงคลอ

นายรังสรรค์ ปัญญาใจ หนึ่งในโปรดิวเซอร์จาก Welfare6 เผยว่า เป็นความท้าทายอย่างมากที่มีโอกาสทำดนตรีให้กับคนและสัตว์เลี้ยงได้ฟังร่วมกันอย่างสมดุล ซึ่งเป็นครั้งแรกของการแต่งทำนองที่คำนึงถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยง โดยพยายามตีความให้ตอบโจทย์ “สุขเท่าเทียม” สร้างความสุขให้กับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง และทำดนตรีให้ออกมาสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนในยุคปัจจุบัน

สร้างสรรค์เพลงที่สามารถเปิดฟังได้ยาวๆ ตลอดทั้งวัน สร้างสมาธิในการทำงาน ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียด มีการทำการบ้านเรื่องความเร็วของจังหวะเพลง (BPM) มีการทำงานร่วมกับทีมสัตวแพทย์ จนออกมาเป็นดนตรีและเพลย์ลิสต์ที่ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างสุนัขและแมวมาแล้วว่า สามารถฟังเพลินๆ สร้างความสุขให้กับสัตว์เลี้ยงและคนไปพร้อมๆ กันอย่างเท่าเทียม