VNG - สินค้าใหม่หนุนการเติบโต (1 มิ.ย. 65)

VNG - สินค้าใหม่หนุนการเติบโต (1 มิ.ย. 65)

ประเมินกำไรปี FY22F ที่ 1,531 ลบ. เติบโต 18%yoy คาดกำไรปี FY23F โตต่อ 12%yoy เป็น 1,717 ลบ.หนุนโดย (1) Demand สินค้าหลัก MDF และ PB ที่แข็งแกร่ง (2) กำลังการผลิตเพิ่มจากสินค้าใหม่แผ่นเกล็ดไม้อัดเรียงชิ้น (OSB) (3) การประหยัดจากขนาดและแผนการลดต้นทุน

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.60 บาทต่อหุ้น

 

VNG ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากแผ่นไม้ MDF (Medium Density Fiberboard), แผ่นไม้ปาร์ติเกิ้ล (Particle Board) และสินค้าใหม่ OSB (Oriented Strand Board) ที่เริ่มเดินเครื่องใน 4Q21 โดย FY22F คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 61%, 18%, 9% ตามลำดับ ปัจจุบันยอดส่งออกคิดเป็น 80% ของรายได้รวม โดยมีต้นทุนที่เป็น USD ประมาณ 40%

 

การคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออก PB และ OSB เบอร์ 2 ของโลกส่งผลโดยรวมต่อ Supply ของตลาด ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 20%yoy ใน 2Q22 แล้วยังส่งผลให้ Utilization rate ของ VNG เพิ่มขึ้นเป็น 80-90% จากเดิมที่ระดับ 70% นอกจากนี้ยังมีกำลังการผลิต OSB ที่เข้ามาช่วยเสริมตั้งแต่ 4Q21 ซึ่งเราคาดว่าจะเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ 3Q22 เป็นต้นไป ทำให้เราประเมินกำไรของ VNG จะเติบโตได้ดีในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ค่า Freight ที่คิดเป็นกว่า 8% ของต้นทุนจะมีแนวโน้มเป็นขาลง ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรใน 2H22 ซึ่งเรามองเป็น Upside risk และยังไม่รวมในประมาณการ

 

คาดกำไร FY22F ที่ 1,531 ลบ. เติบโต 18%yoy และกำไร FY23F เติบโตต่ออีก 12%yoy เป็น 1,717 ลบ. แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.6 บาทต่อหุ้น อิง P/E 12x FY22F EPS หรือเทียบเท่า PEG 1.0x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 14x