‘บางเทา-เชิงทะเล’ ผงาดฮับคอนโดหรู รับคลื่นลงทุนต่างชาติ

‘บางเทา-เชิงทะเล’ ผงาดฮับคอนโดหรู รับคลื่นลงทุนต่างชาติ

อสังหาฯในกรุงเทพฯชะลอตัวตรงข้ามกลับเกิดขึ้นในภูเก็ตที่เป็น “ฮอตสปอต” โดยเฉพาะ ‘บางเทา-เชิงทะเล’ ผงาดฮับคอนโดหรู รับคลื่นลงทุนต่างชาติ และผู้ซื้ออยู่อาศัยระยะยาว

KEY

POINTS

  • ย่านบางเทา-เชิงทะเล กลายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีของภูเก็ต 
  • ได้รับแรงหนุนจากกำลังซื้อของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากรัสเซีย ยุโรป และเอเชีย ที่เปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวมาเป็นผู้พำนักระยะยาวเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า
  • ผู้พัฒนาโครงการหันมาแข่งขันด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเน้นโครงการที่มีดีไซน์และบริการระดับโรงแรม (Branded Residence) 

ข้อมูลจากแผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีโครงการใหม่เปิดขายในภูเก็ตกว่า 85 โครงการ 5,500 ยูนิต รวมมูลค่า 73,000 ล้านบาท โดยหลายโครงการปิดการขายได้ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน สะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่งจากตลาดในประเทศและต่างชาติ เชื่อมั่นศักยภาพของภูเก็ตในฐานะเมืองแห่งการลงทุน

โดยครึ่งปีแรกภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.6 ล้านคน สร้างรายได้ 2.92 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ 1.5% นักท่องเที่ยวหลักอย่าง รัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย จีน และคาซัคสถาน มีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนตลาดที่อยู่อาศัย หลายรายเปลี่ยนจาก “ผู้มาเยือนชั่วคราว” เป็น “ผู้พำนักระยะยาว” มองหาอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัยถาวร หรือ เพื่อปล่อยเช่า สร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง
 

New Equilibrium สมดุลใหม่ภูเก็ต

หลังผ่านช่วงบูมสุดขีด! ที่ราคาพุ่งแรงในช่วงก่อนโควิด-19 ตลาดภูเก็ตวันนี้เข้าสู่ระยะสมดุลใหม่ (New Equilibrium) ที่มั่นคงกว่าเดิม จำนวนคอนโดมิเนียมที่เคยมีอุปทานสูง 12,000-15,000 ยูนิต ลดเหลือเพียง 7,000 ยูนิต ในปีนี้ ขณะที่บ้านพักตากอากาศลดลงเหลือเพียง 600-700 ยูนิตต่อปี 

‘บางเทา-เชิงทะเล’ ผงาดฮับคอนโดหรู รับคลื่นลงทุนต่างชาติ

การปรับสมดุลนี้ช่วยให้ตลาดกลับมามีเสถียรภาพ ราคาขายขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผู้พัฒนามุ่งเน้นโครงการคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเฉพาะโซน “บางเทา-เชิงทะเล-ลายัน” ที่กลายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี
 

บางเทา-เชิงทะเล แม่เหล็กดึงดีมานด์

หาดบางเทาและเชิงทะเล ถูกขนานนาม “Golden Mile” ของภูเก็ตในยุคปัจจุบัน เพราะรายล้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส ทั้ง Porto de Phuket, Boat Avenue, สนามกอล์ฟลากูน่า โรงเรียนนานาชาติ อยู่ใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ต จึงเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและการอยู่อาศัยถาวร ผลที่ตามมาคือการไหลบ่าของทุนใหญ่จากกรุงเทพฯ จับจองที่ดินและเปิดโครงการใหม่

หนึ่งในโครงการที่สร้างกระแสแรง “ไซมิส บางเทา” วิภาดา รัตนพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส สโตน ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า หลังเปิดตัว 5 เดือน โครงการทำยอดขายกว่า 70% จาก 272 ยูนิต โครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 3.89 ไร่ ประกอบด้วยอาคารโลว์ไรส์ 7 ชั้น 3 อาคาร มีห้องพักสตูดิโอ และดูเพล็กซ์ พร้อมไฮไลต์ Golf Simulator, สนาม Paddle Tennis, ออนเซ็น, Ice Bath, โคเวิร์กกิ้งสเปซ, สวนสัตว์เลี้ยง, บาร์บีคิวรูฟท็อป และ โรงภาพยนตร์กลางแจ้ง ราคาขาย 5.8-13.9 ล้านบาท เปิดให้ซื้อทั้งแบบ Freehold และ Leasehold คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 2570

ยกระดับบริการสู่มาตรฐานโรงแรม

อีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ “ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น” ในเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวโครงการ Origin Residence Phuket Bangtao มูลค่า 2,400 ล้านบาท จุดขายคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร 294 ยูนิต ขนาด 40-85 ตร.ม. รองรับกลุ่มผู้ซื้ออยู่จริง และนักลงทุนปล่อยเช่า ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 117,000 บาท/ตร.ม.

ธนกร วุฒิพงษ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จุดแข็งของโครงการ คือการบริหารโดย Crown Residences ที่ยกมาตรฐานบริการระดับโรงแรมหรู ตั้งแต่ Concierge, Bartender at The Club, Personal Chef และ Shuttle Service จนถึง Boat Avenue สะท้อนแนวโน้ม “Branded Residence” ที่ได้รับความนิยม

“ภูเก็ตกำลังเปลี่ยนจากเมืองท่องเที่ยวสู่เมืองอยู่อาศัยระดับโลก บางเทา คือทำเลที่ตอบโจทย์ที่สุด ทั้งใกล้ชายหาด สนามบิน และชุมชนที่ครบเครื่องด้านไลฟ์สไตล์ เป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับการลงทุนและถือครองระยะยาว”

ทุนต่างชาติ-ดีเวลอปเปอร์ไทย เคลื่อนตลาด

ปัจจัยที่ทำให้ภูเก็ตยังร้อนแรงไม่หยุด คือการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งจากรัสเซีย ยุโรป และเอเชีย ซึ่งมองว่าภูเก็ตมีความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐานพร้อม และผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าดี อย่างบางเทาอยู่ที่ราว 6-8% ต่อปี ถือว่าสูงเทียบค่าเฉลี่ยในกรุงเทพฯ ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ 150,000-180,000 บาท/ตร.ม. ส่งผลให้ดีเวลอปเปอร์จากกรุงเทพฯ หลายรายเร่งเข้ามาจับตลาด เพื่อต่อยอดพอร์ตธุรกิจในกลุ่มคอนโดและวิลล่าซึ่งมีอัตรากำไรสูงจากลูกค้าต่างชาติที่มีศักยภาพ

ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย มองว่า ย่านบางเทา-เชิงทะเล กำลังเข้าสู่ เฟสคุณภาพ (Quality Phase) ที่ผู้พัฒนาสร้างความแตกต่างด้วย ดีไซน์ บริการ และแบรนด์ มากกว่าแข่งด้านราคา 

ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแบบ Branded Residence และ Serviced Condo เพิ่มสูงขึ้น เพราะผู้ซื้อรุ่นใหม่เน้นประสบการณ์การใช้ชีวิตมากกว่าการครอบครองทรัพย์สิน ประกอบกับเทรนด์ Work from Anywhere และ Wellness Living เติบโตทั่วโลก ยิ่งหนุนให้ภูเก็ตโดยเฉพาะบางเทาเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการใช้ชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการลงทุนควรเน้นโครงการที่มีจุดขายเฉพาะตัว เลือกทำเลที่มีความต้องการเช่าจริง ไม่ใช่เก็งกำไรระยะสั้น เพราะตลาดเริ่ม “อิ่มตัว” บางส่วน และผู้ซื้อมีความละเอียดในการตัดสินใจมากขึ้น

ตลาดคอนโดภูเก็ต “บางเทา-เชิงทะเล” เดินหน้าสู่เมืองอยู่อาศัยระดับโลกอย่างแท้จริง คลื่นการลงทุนสร้าง “มาตรฐานใหม่” ให้ภูเก็ตเป็นตลาดอสังหาฯ ที่ทรงพลังที่สุด ทำเล “บางเทา-เชิงทะเล” ไม่ใช่เพียงเมืองท่องเที่ยว แต่กลายเป็นเมืองที่คนทั่วโลกอยากเข้ามาอยู่อาศัย