เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกวาคาด (27 พ.ค. 65)

เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกวาคาด (27 พ.ค. 65)

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลหลังจากการรายงานการประชุมเฟด ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้ว

มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และการเงิน ทั้งนี้เห็นนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long TFEX ต่อเนื่อง เดือนพ.ค. มีสถานะ Long 67,075 สัญญา ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,633.73 จุด +8.55 จุด +0.53% มูลค่าการซื้อขาย 61,370 ลบ.ต่างชาติ +3,387.15 ลบ. TFEX +16,048 สัญญา ตราสารหนี้ +1,322.61 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 516.91 จุด +1.61% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีก รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ที่สอดคล้องคาดการณ์โดยระบุว่า เฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีหากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง
+ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ 3.4% ปิดที่ 114.09 ดอลลาร์/บาร์เรลได้แรงหนุนจากการความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงวันหยุด Memorial Day รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า สมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถบรรลุข้อตกลงคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
+แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส จะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมวันที่ 2 มิ.ย. ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
+ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตการณ์อาหารระหว่างประเทศ แต่ชาติตะวันตกจะต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียก่อน
+สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย
 

 

 

+ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า 4M65 เบิกจ่ายสะสมได้ตามเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ 99,703 ล้านบาท จากกรอบการลงทุนทั้งปี 338,126 ล้านบาท หรือเบิกจ่ายแล้ว 29%

 

ปัจจัยลบ 

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ประมาณการครั้งที่ 2 ประจำ 1Q65 หดตัว -1.5% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัว -1.4% ในประมาณการครั้งที่ 1 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเพียง -1.3%
- สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 3.9%MoM และ ดิ่งลง 9.1%YoY ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 99.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 และปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 2%MoM
+/- ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 4,837 ราย ติดเชื้อสะสม 4,434,511 ราย ผลตรวจจาก ATK / เข้าข่ายติดเชื้อ 6,380 ราย ผู้เสียชีวิต 29 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดในภูมิภาคเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวทั้ง GDP สหรัฐและยอดทำสัญญาขายบ้านส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป อีกทั้งการเปิดรับท่องเที่ยวในไทยเป็นปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,623-1,645 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด : AOT AAV BA BEM ERW CENTEL MINT AWC ASAP • MSCI ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 31 พ.ค. MSCI Global Standard Index : เข้า JMT ออก STGT MSCI Global Small Cap : เข้า ASK BYD DITTO FORTH KEX PSG SABUY STGT,STARK VIBHA ออก EASTW JMT
• FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย. FTSE All World Index : เข้า – ออก - , Micro Cap Index เข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก -

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                 LALIN - "การเติบโตยังคงเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คาดกำไรทำ New High"
                                                                     <ราคาเหมาะสม 13.20 บาท>

เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกวาคาด (27 พ.ค. 65)

 

•กำไรงวด 1Q65 เท่ากับ 328 ลบ. ลดลง 12.9%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 2.5%YoY โดยมีรายได้จากการขาย 1,581 ลบ. -10.0%QoQ, +3.8% YoY รายได้ยังสามารถเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากช่วง 4Q64 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 39.0% ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบ YoY และ QoQ

•คงเป้าประมาณการรายได้ และกำไรปี 65 ที่ 7,230 ลบ. และ 1,511 ลบ. เติบโต 10% และ 9% ตามลำดับ สอดคล้องกับมูลค่าโครงการที่มีแผนเปิดขายใหม่ทั้งปีที่ราว 7-8 พันล้านบาท กำไรในช่วง 1Q65 คิดเป็น 22% ของประมาณการกำไรปี 65

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัท ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี พร้อมทั้งสามารถรักษาอัตราการทำกำไรในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดย 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลง -16.51% ตามภาวะตลาด เรามองเป็นโอกาส "ซื้อสะสม" พร้อมคาดการณ์อัตราเงินปันผล ราว 7.1%

 

หุ้นมีข่าว

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 50.00 บาท) เข้าซื้อหุ้น EasyRes ผู้พัฒนาและให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหาร 25% ขณะผู้ก่อตั้งซื้อหุ้น SABUY 28 บาท ชี้มีร้านค้าในพอร์ตสูง 6 พันร้านค้า พนักงาน 3 แสนราย ต่อยอดธุรกิจได้เพียบ ระบุครองมาร์เก็ตแชร์ POS 50% พร้อมตั้ง 3 บริษัทใหม่ แตกไลน์ เอาต์ซอร์สซิ่ง ฟูลฟิลเมนต์ ดาต้า เซ็นเตอร์ และคลาวด์ บัญชีผู้ใช้สิ้นปีแตะ 100 ล้านราย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 90.00 บาท) แววผลงานไตรมาส 2/2565 โตต่อเนื่อง ครึ่งปีหลังผลงานโตก้าวกระโดดรับรู้ส่งมอบรถบัสอีวี 1.5-2 พันคัน และรถบรรทุกไฟฟ้าหลายร้อยคัน เดินหน้าขยายโรงงานแบตเตอรีเป็น 4GW รองรับการประกอบรถไฟฟ้าได้ 8 พันคัน พร้อมต่อยอด EA Ecosystem ทั้งระบบ เบนเข็มรับงานบริหารจัดการขยะหนุนรายได้โรงไฟฟ้า เล็งขายหุ้นกู้วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) UPA (Bloomberg Consensus 0.60 บาท) จ่อรับรู้รายได้ขุดบิทคอยน์ในไตรมาส 2/2565 หลังติดตั้งเครื่องครบ 6,000 เครื่องตามแผน ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าพร้อมสร้างโครงการใหม่ในเมียนมา 200 เมกะวัตต์ ส่วนธุรกิจกัญชงคาดเริ่มรับรู้รายได้ Q3-Q4 นี้ เคาะเป้าทั้งปี 40-50 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CIVIL (Bloomberg Consensus 7.15 บาท) เดินหน้าก่อสร้างงาน 7 โครงการ ที่ชนะการประกวดราคาใน Q1/2565 มูลค่ารวม 167 ล้านบาท ชูกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพบริหารโครงการรวดเร็ว เผยทิศทาง Q2/2565 ลุ้นผลประมูลเมกะโปรเจ็กต์ มูลค่ารวมกว่า 5,000-10,000 ล้านบาท ดัน Backlog แตะ 15,000-20,000 ล้านบาท รุกงานเหมืองหินหนุนธุรกิจผลิตวัสดุก่อสร้างแข็งแกร่ง มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 6,000 ล้านบาท เติบโต 20% ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)