กระทรวงการคลังเร่งสรุปผลสอบ 'ท่อน้ำ EEC' 20 พ.ค.

โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล การสร้างอาชีพ​ เตรียมแรงงาน ทั้งในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่รอบข้าง ตามแนวชายแดนซึ่งเป็นการติดตามความคืบหน้ามีปัญหาตรงไหนก็จะปรับแก้ การให้สิทธิประโยชน์ต่างๆก็ต้องมีการปรับแก้ รูปแบบในอนาคต ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถตอบสนองในแต่ละพื้นที่ให้ได้ เนื่องจากขีดความสามารถต่างกัน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยหยุดคิดไม่เคยหยุดทำ และมีหลายอย่างที่อาจจะต้องมีการปรับแก้ประเด็นสำคัญคือกว่าการทำความเข้าใจ และเคารพกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทุกคนทราบดีว่าการลงทุนทุกอย่างขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ เราให้มากนักก็ไม่ได้ ให้น้อยไปก็สู้เขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้สัมพันธ์กันไปทั้งหมด ยอมรับว่าการประชุมในวันนี้มีหลายวาระ ซึ่งจะมีการชี้แจงรายละเอียด ต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อน

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี​ ยังระบุอีกว่า​ ที่ผ่านมาบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยดี อะไรที่ยังเป็นกระบวนการก็ต้องว่ากันไป ตนไม่ขอไปก้าวล่วง เพราะนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย ในการกำกับดูแลข้าราชการและติดตามกรณีใดที่มีปัญหา ก็ต้องสั่งให้มีการทบทวนแก้ไข บางทีก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานและคณะกรรมการที่เขาทำกันอยู่ นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่อย่างเดียวคือเมื่อมีปัญหาก็ต้องสั่งการให้มีการตรวจสอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผลการตรวจสอบนั้นจะเป็นอย่างไร และทั้งหมดจะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรม โอเค นะ​ เข้าใจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงไหน

เมื่อถามย้ำว่าในที่ประชุมมีการหารือในประเด็นสัญญาท่อส่งน้ำ ในภาคตะวันออก​25,000 ล้านบาท​ หรือไม่นั้น​ นายกรัฐมนตรีระบุว่า คนละเรื่อง ตนสั่งไปแล้ว​ พร้อมกับกล่าวย้ำว่าตนได้สั่งการให้ตรวจสอบทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสัญญาท่อส่งน้ำเสียงเรื่องเดียว