โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา ‘เสี่ยง’ สูญพันธุ์

วันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีการจัดกิจกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบสื่อ ครั้งที่ 1 ซึ่งได้รวบรวมเอาประเด็นต่างๆ ที่กระทรวงรับผิดชอบ รวมถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจมาบอกเล่า

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในช่วงเกือบ 3  ปี รวมถึงเรื่องความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยกล่าวว่า  สถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในภาพรวม ปี 2564 มีแนวโน้มดีขึ้น  เนื่องจากทุกภาคส่วนได้ช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟู รวมทั้งการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ  เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์สัตว์ทะเลควบคู่ไปกับการทำประมงอย่างยั่งยืน 

เช่น การพบแนว ปะการัง และหญ้าทะเลที่มีสภาพสมบูรณ์เกินครึ่ง พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มมากขึ้น และพบเห็นสัตว์ทะเลหายากได้ มากขึ้น ทั้งโลมา วาฬ และ ฉลามวาฬ อีกทั้งเต่าทะเลขึ้นวางไข่บริเวณชายหาดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับพะยูนที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ระยะที่ 1 เพื่อการอนุรักษ์คุ้มครองพะยูนและถิ่นที่อยู่อาศัยของพะยูนในประเทศไทย และ กระแสความตระหนักต่อผลกระทบของขยะพลาสติกและขยะทะเล

อย่างไรก็ตาม สัตว์ทะเลที่หายาก และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ที่น่าห่วง คือ โลมาอิรวดีในทะเลสาบ สงขลา ที่เหลืออยู่เพียง 14 ตัว เนื่องจากส่วนใหญ่ติดเครื่องมือประมงประเภทอวน หรือ แห  รวมถึงปัจจัย
ด้านกายภาพ และชีวภาพ เช่น การตื้นเขินของทะเลสาบจากตะกอนชายฝั่ง มลภาวะจากธาตุอาหาร พืช หรือภาวะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนพืช และสาหร่ายในแหล่งน้ำจืด รวมถึง การก่อสร้างสิ่ง ล่วงล้ำลำน้ำ การเกิดมลพิษในน้ำ และดินในทะเลสาบ เป็นต้น  ดังนั้น การวางแผนอนุรักษ์ และขยายพันธุ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา จึงเป็นอีกเรื่องเร่งด่วนที่กระทรวงฯ จะต้องมีมาตรการทั้งในระยะสั้น โดยทางกระทรวง จะร่วมมือกับนักวิชาผู้เชี่ยวชาญ ในการหาวิธี  ให้ประชาชนในพื้นที่เห็นความสำคัญของโลมาอิรวดี  รวมถึงระยะยาวในการดูแล ซึ่งอาจขอความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำลงในทะเล และดูว่าโลมาเหล่านี้จะสามารถผสมพันธุ์กับพันธุ์อื่นได้อย่างไร


สำหรับความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว ภายใต้นโยบายเปิดประเทศ นายวราวุธ  ระบุว่า  ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีข้อกำหนด เพื่อเป็นแนวทาง ปฏิบัติในการเข้าชมและเข้าใช้สถานที่ รวมถึงข้อห้ามต่างๆ ตลอดจนจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับ แต่ละพื้นที่  คำนึงถึงการท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยขอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ไปเที่ยวแบบวิถีใหม่ "นักท่องเที่ยว ที่มีใจเป็นนักอนุรักษ์"

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์