SCC เปิด 4 แผนรับมือ ต้นทุนพลังงานพุ่ง ดันยอดขายโต
“ปูนซิเมนต์ไทย” คาดยอดขายปีนี้ โตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% จากปี 2564 เหตุ ราคาขาย -ดีมานด์ธุรกิจเคมีคอลส์ในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น พร้อมเปิด 4 แผน รับมือต้นทุนพลังงานพุ่ง
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดขายปีนี้ จะสูงกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะโต 10 % จากปีก่อน เนื่องจาก ราคาขายที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนพลังงาน และความต้องการสินค้า ในกลุ่มเคมีคอลส์ ในภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ธุรกิจเคมิคอลส์ ซึ่งมีต้นทุนด้านพลังงาน 70-80% ของต้นทุนรวม รองลงมาเป็นธุรกิจธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่ใช้พลังงานสูงราว 20% ขณะที่ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ได้รับผลกระทบน้อยสุด โดยมีต้นทุนด้านพลังงานที่ 5-10%
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือ บริหารความเสี่ยง และมองภาพระยะยาวที่จะทรานส์ฟอร์มธุรกิจ โดยมีการวางแผนการลงทุนในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีความต้องการมากขึ้นในตลาด
บริษัทมีแนวทางการรับมือด้วย 4 กลยุทธ์ ประกอบด้วย
1. บริหารจัดการธุรกิจเชิงรุก ปรับตัวไวพร้อมความยืดหยุ่น ปิดความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงาน-วัตถุดิบพุ่งสูง และความไม่แน่นอนที่อาจยาวต่อเนื่องใน 3-6 เดือนข้างหน้าด้วยการติดตามราคาพลังงานต่อเนื่อง
2. ส่งมอบนวัตกรรมรับเทรนด์ทันท่วงที คว้าโอกาสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการเปิดประเทศ ผ่านนวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม 3. เดินหน้าลงทุนรับโอกาสตลาดโลกโต SCGC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อระดมทุนเดินหน้าขยายธุรกิจศักยภาพสูง สร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคอาเซียน ตอบโจทย์ตลาดโลกและความยั่งยืนไปพร้อมกัน
ด้านโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ที่เวียดนาม มีความคืบหน้าการก่อสร้างตามแผน 93% โดยเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ทั้งด้านการผลิตและการขายเพื่อดำเนินการเชิงพาณิชย์ในครึ่งแรกของปี 2566
4. เร่ง ESG สร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ ด้วยแนวทาง ESG 4 Plus (มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ ภายใต้ความเป็นธรรม โปร่งใส) โดยเอสซีจีเดินหน้าตามแผนงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 และลดลงอย่างน้อย 20% ในปี 2573 (จากปีฐาน 2563)
