เปิดหน้า ‘รบพิเศษ 911’ ทัพเขมรลุยสมรภูมิ ‘ตาควาย’

สงคราม 5 วัน 11 แนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา สมรภูมิที่เดือดที่สุดตั้งแต่วันแรกคือ “ปราสาทตาควาย”

เมื่อทหารกัมพูชา เปิดเกมรุกเข้ามาวางกำลังบริเวณปราสาทตาควาย ทำให้ทหารไทยต้องเปิดโต้กลับ และพยายามชิงพื้นที่คืน

โดยเฉพาะก่อนเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค.2568 มีรายงานข่าวว่า สมเด็จฮุน เซน สั่งให้ทหารหน่วยองครักษ์ BHQ ประจันหน้าทหารไทย หวังสถาปนาพื้นที่ความมั่นคงก่อนจะถึงเวลาหยุดยิง

ขณะที่ทหารไทยคือ “กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์” (ร.31 รอ.) พยายามเข้าผลักดันทหารกัมพูชาให้พ้นปราสาทตาควาย

หลังเจรจาการหยุดยิง ทางกองทัพไทยแถลงว่า ฝ่ายเราควบคุมพื้นที่ไว้ได้ แต่ไม่มีการยืนยันเรื่องการสถาปนาพื้นที่มั่นคง

กระทั่งวันที่ 30 ก.ค.2568 ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Pheara Sarat โพสต์ข้อความ “ยึดปราสาทควาย” พร้อมภาพตัวเขาถ่ายคู่ทหารกัมพูชา ทำให้คนไทยมีความสับสน เพราะเดิมทีเข้าใจทหารไทยยึดไว้ได้หมด

ส่องเข้าไปในเพจ Pheara Sarat พบว่า เขาไม่ใช่นักข่าว เป็นอินฟลูฯสายมู เข้าไปประกอบพิธีกรรมบางอย่างในตัวปราสาทตาควาย

วันถัดมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่าฝ่ายเราได้ควบคุมพื้นที่ได้ตามแผน ยกเว้นปราสาทตาควาย เพราะมีข้อจำกัดเรื่องกับระเบิด

สรุปว่า ฝ่ายเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา

มีข้อน่าสังเกต ทางฝั่งกัมพูชา ไม่ได้เผยแพร่ภาพทหารเขมรยึดปราสาทตาควาย ผ่านสื่ออย่าง Kampuchea Thmey Daily, BTV Cambodia, TVK, Khmer Times และ Fresh News

มิหนำซ้ำ Pheara Sarat ได้ลบภาพที่ถ่ายคู่ทหารกัมพูชาด้านหน้าปราสาทตาควายออกจากหน้าเพจไปแล้ว

อีกข้อมูลหนึ่งจากทางฝั่งกัมพูชาคือ ทหารเขมร ที่ปะทะกับทหารรบพิเศษไทยในคืนสุดท้ายก่อนหยุดยิงคือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 911 หน่วยจู่โจมตีที่ 6 ไม่ใช่หน่วยองครักษ์ BHQ​

หน่วยองครักษ์ BHQ ทำหน้าที่ควบคุมการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่บนเนิน 350

จริงๆ แล้ว กำลังทหารเขมรที่เข้าโจมตีปราสาทตาควายตั้งแต่วันแรกๆ คือ ทหารกองพลน้อยที่ 42 จ.อุดรมีชัย ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.เนี๊ยะ วง

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “หน่วยรบพิเศษ” ของกัมพูชา ที่มีอยู่ 3 หน่วย คือ

1.กองพลน้อยที่ 70 หน่วยองครักษ์ฮุนเซนยุคแรกๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพเวียดนาม

2.หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษ หรือกรมปฏิบัติการพิเศษที่ 911 ได้รับการฝึกฝนจากกองทัพสหรัฐฯ หลังเหตุการณ์ 9-11

3.หน่วยองครักษ์ (Bodyguard Headquarters: BHQ) ที่ได้รับการฝึกและช่วยเหลือจากกองทัพประชาชนจีนในช่วง 10 ปีมานี้

หน่วย BHQ จึงมีรถหุ้มเกราะ รถถัง รวมทั้งจรวดหลายลำกล้องทั้ง BM-21 และ PHL-03 ที่สั่งซื้อมาจากจีน

30 กว่าปีที่แล้ว สมเด็จฮุน เซน ได้จัดตั้ง “กองพลน้อยที่ 70” เป็นเหมือนหน่วยรบเฉพาะกิจ คู่กับหน่วยองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน

กำลังพลส่วนใหญ่ในกองพลน้อยที่ 70 จะเป็นอดีตทหารเขมรแดง ที่มาจาก จ.ไพลิน ซึ่งเป็นหน่วยรบที่ผ่านการรบมาโชกโชน

ปี 2540 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 สั่งกองพลน้อยที่ 70 ก่อการรัฐประหารโค่นเจ้านโรดม รณฤทธิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 1 โดยทหารฝ่ายฮุนเซน ทำลายกองทัพของพรรคฟุนซินเปคจนไม่เหลือซาก

หลังเหตุการณ์วินาศกรรมช็อกโลก 11 ก.ย. 2544 ฮุน มาเนต ในฐานะ ผบ.กองพลน้อยที่ 70 ได้เจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ขอความช่วยเหลือด้านการทหาร เพื่อป้องกันการก่อการร้าย สหรัฐฯ จึงทุ่มงบประมาณให้รัฐบาลกัมพูชา พัฒนาและยกระดับกองพลน้อยที่ 70 เป็นหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล

นี่คือ จุดกำเนิดของกรมปฏิบัติการพิเศษที่ 911 เป็นหน่วยปฏิบัติการเฉพาะด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และการช่วยเหลือตัวประกันชุดแรกของกัมพูชา

ปัจจุบัน ที่ตั้งของกองพลน้อยที่ 70 หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 911 และหน่วยทหารองครักษ์ BHQ อยู่ที่ อ.ตาขะเมา จ.กันดาล

อ.ตาขะเมา จึงเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการหน่วยรบพิเศษ ทั้ง 3 หน่วย ที่มีอำนาจครอบคลุม 3 พื้นที่เป็นการเฉพาะ ได้แก่ กรุงพนมเปญ จ.กันดาล และ จ.กัมปงชะนัง

ด้วยเหตุนี้ สมเด็จฮุน เซน จึงรักษาอำนาจได้ยาวนานกว่า 40 โดยไม่มีทหารเขมรกลุ่มใดก่อการรัฐประหารโค่นล้มเขาได้ เพราะมีหน่วยรบพิเศษ 3 หน่วยเป็นกองทัพส่วนตัว

คฤหาสน์หลังใหม่ของสมเด็จฮุน เซน ก็อยู่ในพื้นที่ของ 3 หน่วยรบที่ อ.ตาขะเมา จ.กันดาล ซึ่งตลอดการสู้รบ 5 วันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฮุนเซนใช้บ้านพักส่วนตัวเป็นวอร์รูม ท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวดของหน่วย BHQ

นับจากยุทธการเขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย เมื่อปี 2554 ผ่านมาถึง พ.ศ.นี้ กองทัพกัมพูชา มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหน่วยรบพิเศษ ที่มีอาวุธทันสมัย