สื่อสารอย่างไรให้โดน ในยุคผู้บริโภคข้อมูลท่วมท้น

ดังเช่นตามยุคสมัยของการตลาดในสมัยก่อน ความเชื่อของธุรกิจในยุคเริ่มต้นต้องการแค่ผลิตสินค้าให้มากเข้าไว้ เพื่อต้นทุนที่ลดลง โดยไม่ได้มองความต้องการของลูกค้า นักธุรกิจมองการตลาดแยกจากการพัฒนาสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค 

หากแต่เมื่อเข้าสู่ยุคต่อมา การแข่งขันของคู่แข่งเข้ามามีอิทธิพลในการพัฒนาสินค้ามากขึ้น ทุกคนมุ่งที่จะทำให้สินค้าของตัวเอง มีประสิทธิภาพดีที่สุด เหนือกว่าคู่แข่ง แต่ก็ไม่ได้คำนึงถึงผู้บริโภคว่าต้องการสิ่งนั้นหรือไม่ 

จนมาถึงในยุคปัจจุบัน ที่การตลาดสมัยใหม่มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค ตอบโจทย์ตลาดในแง่ของ Functional และ Emotional ทำให้มนุษย์ปัจจุบันมีปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่หลากหลาย ส่งผลให้การสื่อสารทางการตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้น 

อีกทั้งช่องทางการสื่อสารปัจจุบันที่ไร้ขีดจำกัด ตัวตนของมนุษย์ไม่ถูกกำหนดแค่โลกจริง แต่มนุษย์ใช้ชีวิตมากขึ้นในโลกเสมือนหรือที่เราเรียกกันกว่า Digital World การสื่อสารออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การผสมผสานของโลกจริงและโลกเสมือน ทำให้ Journey ของลูกค้าไม่ได้ถูกกำหนดที่โลกใดโลกหนึ่ง แยกกันไม่ได้ ส่งผลให้ Omni Channel เกิดขึ้น และมีบทบาทต่อการตลาดในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

‘มนุษย์’ ผู้ซึ่งถูกเลือกให้รับข้อมูลนั้น มีขีดจำกัดในการรับข้อมูลเหมือนกัน มีสถิติกล่าวว่าทุกวันนี้ คนๆ หนึ่งได้รับข้อความที่เกี่ยวข้องกับการตลาดราว 5,000-20,000 ข้อความต่อวัน เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งเท่าตัวใน 10 ปีที่ผ่านมา นักการตลาดก็ต้องเฟ้นหาแนวทาง เพื่อเข้าไปในจุดที่ผู้บริโภครับรู้ได้ยากกว่าเดิม

เอ็นไวโรเซลมีแนวทางมานำเสนอ เพื่อทำให้การสื่อสารของนักการตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งแง่ของการเข้าถึงข้อมูล และผลกระทบต่อผู้บริโภคมากขึ้นดังนี้

อยู่ให้ถูกที่ถูกทางไม่พอ ต้องถูกเวลา

การใช้งบทางการตลาดจำนวนมาก ไปในจุดที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้น้อย อาจมีค่าเท่าเทียมกับการใช้งบประมาณน้อย แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เวลาที่ถูกต้องก็เป็นได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจผู้บริโภคในแง่ของความต้องการนั้นไม่เพียงพอ 

หากแต่นักการตลาดต้องเข้าใจวิถีชีวิตของผู้บริโภค ว่าเวลาไหนที่เขาต้องการสินค้าเรา ต้องพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในช่วงเวลานั้น ทำให้เกิดตัวเลข Conversion สูงสุด เช่น เราเป็นร้านอาหาร ก็ต้องสร้างการรับรู้ในช่วงเวลากินข้าว ก่อน หรือ หลังจากนั้น นานๆ ไม่มีประโยชน์เพราะผู้บริโภคเสพข้อมูลเป็นวินาที การใช้ push notification เป็นเรื่องจำเป็นมากในปัจจุบัน

Push notification การแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในเวลาที่ถูกต้อง

การใช้ push notification เป็นการช่วยผู้บริโภคย่อยข้อมูล ในเวลาจังหวะที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือ เหมาะสมทั้งเวลา สถานที่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดโอกาสในการซื้อ เช่น ผู้บริโภคอยู่ที่ห้าง A เวลา 11.45 น.

ถ้าเราเป็นร้านอาหารในห้างนั้น ก็ทำ push notification ว่ามีโปรโมชั่นที่ร้าน ให้ลูกค้าที่อยู่ที่ห้าง ในเวลา 11.00-13.00 น. โอกาสที่ลูกค้าจะมากินที่ร้านเรามีสูงมาก เพราะเราอยู่ถูกที่ ถูกเวลา

เนื้อหาต้องสร้างอารมณ์ได้

คนส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน หากไม่ตั้งใจ จะจำรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ไม่ได้ แต่จะจำความรู้สึกต่างๆ ได้ เหมือนกับที่เราไม่รู้วันๆ หนึ่งเราก้าวเท้าไหนออกจากบ้าน ขับรถผ่านไฟแดงกี่แยก 

คนเรามักจะเลือกจดจำสิ่งที่ตรงกับความต้องการ ความเชื่อ ความคาดหวัง ปัญหา และประสบการณ์ที่เจอประจำเป็นหลัก ถึงเราจะจำไม่ได้ว่าเราผ่านมากี่แยก แต่เราจำได้ว่าอารมณ์เป็นยังไง ดังนั้นการสื่อสารที่ดี จะต้องสามารถสร้างอารมณ์ได้ เพราะการสร้างอารมณ์ เป็นตัวเชื่อมโยงกับผู้บริโภค ให้มีอารมณ์ร่วมกัน สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และการสื่อสารจะถูกขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกของผู้บริโภคเอง และประสบความสำเร็จในที่สุด

ลองนำ 3 ข้อนี้ไปปรับใช้ดูกัน แล้วจะรู้ว่าถ้าเราจับจุด จับแก่นได้ถูกต้อง ก็จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับแบรนด์ และผู้บริโภคที่จะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ