ศัตรูต่างความคิดหรือมิตรต่างสี

ต้องมีสักวันหนึ่งในการทำงานที่เราต้องพบเจอคนร่วมงานที่คิดต่างจากเรา เชื่อต่างจากเรา ความแตกต่างนี้นำไปสู่ทางเลือกสองทาง
คือเราได้พบศัตรูต่างความคิด หรือ เราได้มิตรต่างสี ทางเลือกทางใดทางหนึ่งนั้นขึ้นกับตัวเราเอง ไม่ได้ขึ้นกับคนที่เราอยากให้เป็นมิตร หรือเป็นศัตรู ยิ่งในบ้านเมืองที่มีคนมากมายที่แสดงให้เห็นกันอยู่เป็นประจำว่าใครคิดใครเชื่อไม่เหมือนฉันถือว่าเป็นศัตรูทั้งสิ้น ยิ่งจะไปกันใหญ่เพราะไม่ใช่แค่ต้องดูแลจัดการตัวเราให้ยอมรับมาคนคิดต่างเชื่อต่างมาเป็นมิตร แทนที่จะเห็นเป็นศัตรูตั้งแต่แรกเจอะเจอ แต่ยังจะต้องดูแลให้เขามองเราเป็นมิตรต่างสี ไม่ใช่มองเราเป็นศัตรูต่างความคิดอีกคนหนึ่ง
ถ้าอยากทำงานด้วยความสบายใจกับมิตรต่างสีคนใหม่ ขอให้เริ่มต้นด้วยความอดกลั้นที่จะแสดงให้มิตรต่างสีทราบว่าเราคิดอย่างไร เราเชื่ออย่างไร ความคิดความเชื่อที่มีท่าทางจะเป็นประเด็นขัดแย้ง เป็นประเด็นถกเถียงขอให้อดกลั้นเก็บเงียบไว้ในใจก่อน อย่าพยายามให้เขาหันมาเชื่อมาคิดแบบเดียวกับเรา อย่าแสดงตัวว่าฉันไม่ชอบความคิดที่เธอเชื่อ การไม่แสดงออกนอกหน้านอกตาว่าไม่ชอบความคิด ความเชื่อที่แตกต่างไปจากที่เราคิดเราเชื่อ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างยิ่ง แค่ต้องฟังเรื่องที่เราไม่เชื่อ เรื่องที่เราไม่ชอบได้ก็ต้องใช้ความอดทนมากทีเดียว ความอดทนที่เพียงพอนี่แหละที่จะทำให้เราเพื่อนคนใหม่ แม้จะต่างสีต่างความเชื่อก็ตาม การอดทนรับฟังความคิดที่แตกต่างโดยไม่ออกอาการให้เห็น ให้รู้สึกทั้งในด้านถ้อยคำและท่าทางไม่ได้เกิดขึ้นได้เองโดยอัตโนมัติ เหมือนกับการแสดงความพออกพอใจเมื่อได้พูดคุยกับคนที่คิดเหมือนกัน เชื่อเหมือนกัน แต่เกิดจากความพยายามอย่างจริงจังในการควบคุมตนเองด้วยความอดทน ถ้าละความอดทน เราจะได้ศัตรูต่างความคิดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนในที่ทำงาน ระลึกไว้เสมอว่ายอมทำงานร่วมกับมิตรต่างสีดีกว่าหมดเวลาทำงานไปกับการจัดการศัตรูต่างความคิด
หนทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความอดทนในการรับฟังความคิดความเชื่อที่เราไม่ชอบจากใครสักคนหนึ่ง ให้พยายามพิจารณาว่าคนนั้นมีอะไรดีอยู่บ้างที่เราชอบ คนนั้นมีอะไรบ้างที่ทำให้เราทำงานร่วมกับเขาได้อย่างราบรื่น เราเก่งทฤษฎี เขาเก่งปฏิบัติ เราเชียร์สีหนึ่ง เราเชียร์อีกสีหนึ่ง แต่เราก็ยังเก่งทฤษฎี เขาก็ยังเก่งปฏิบัติ ทำงานร่วมกันงานก็ง่ายขึ้น สีที่ต่างคนต่างเชียร์ไม่ได้ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งเก่งน้อยลง ความไม่ชอบความเชื่อความคิดนั้นต่างหากที่ทำให้ตัวเราเก่งน้อยลง เมื่อต้องทำงานกับคนที่เชื่อในสิ่งที่เราไม่ชอบ ตราบเท่าที่เราเลือกมองเฉพาะส่วนดีที่เราพอใจจากเพื่อนต่างสี การทำงานร่วมกันก็เดินหน้าไปโดยราบรื่น อย่าจ้องมองแต่ความคิดความเชื่อที่เราไม่ชอบในตัวคนร่วมงาน อย่ามองหาแต่ศัตรูต่างความคิด ให้มองหาสิ่งดีๆ ที่เราชอบในตัวเพื่อนต่างสี
ในการทำงานร่วมกันย่อมต้องมีการพูดคุยกันบ้าง จะหลีกเลี่ยงการสนทนาที่เกี่ยวกับความคิดความเชื่อที่เราไม่ชอบ แต่คนอื่นไม่ชอบไปตลอด คงทำได้ไม่ง่ายนัก ยิ่งหลีกเลี่ยง ยิ่งมีโอกาสนำไปสู่การถกเถียงโดยไม่ได้ตั้งใจมากขึ้น การถกเถียงที่มาโดยบังเอิญนี่แหละที่เปิดเรื่องที่ต่างคนต่างไม่ชอบออกมาโดยที่ไม่มีการตระเตรียมที่ดี การสนทนาบนพื้นฐานความคิดความเชื่อที่แตกต่าง เป็นการสนทนาที่ต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะต้องมีการสนทนาในเรื่องความคิดความเชื่อที่เราไม่ชอบกับเพื่อนต่างสีของเรา ซึ่งวิธีรับมือที่ดีที่สุดคือฟังให้มาก พูดให้น้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าฟังอย่างเดียวโดยไม่ยอมพูดจาอะไร เพราะนั่นเป็นการกระทำที่ไม่ได้แสดงว่าเป็นเพื่อนกัน ถ้าจะฟังความเชื่อความคิดที่เราไม่ชอบนั้น ขอให้พยายามตั้งคำถามในทำนองว่าเรื่องนั้น ความเชื่อนั้นมีความสำคัญอย่างไรกับเพื่อนต่างสีคนนั้น แล้วรับฟังโดยไม่ต้องใช้สมองวินิจฉัยหาตรรกะ หาหลักการใดๆ ของความเชื่อนั้น เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายว่าทำไมเพื่อนต่างสีถึงเชื่อความคิดความเชื่อของคนโกงบางคนได้ ยิ่งพยายามหาตรรกะ หาเหตุผลมากเท่าไร เราก็จะยิ่งอยากถกเถียงว่าทำไมเชื่อไปอย่างนั้นได้ ซึ่งถ้าต่างคนต่างเชื่อแล้วต่างคนต่างถกเถียงว่าอีกคนหนึ่งเชื่อไม่ถูก คิดไม่ถูกนั้น เถียงกันเป็นปีก็ไม่มีจบ จนกระทั่งมิตรต่างสี กลายเป็นศัตรูต่างความคิดไปจนได้ อยากรักษามิตรต่างสีเอาไว้ ให้ฟังเขามากกว่าที่จะบอกเขาว่าเราไม่ชอบความคิดความเชื่อนั้นเพราะอะไร
มีงานวิจัยงานหนึ่งบอกว่าการพบปะสนทนากับคนต่างความเชื่อต่างความคิดอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้หูตากว้างขวางขึ้น คือไม่ปิดหูปิดตามองเจาะจงไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่งอย่างซ้ำซาก เพื่อนต่างสีจะช่วยเปิดมุมมองบางมุมที่เราไม่เคยใส่ใจมาก่อนได้ ถ้าชอบใจเป็นกองเชียร์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราก็มักเห็นแต่อะไรที่ดีๆ ของกลุ่มนั้น แต่พอหันไปฟังจากเพื่อนต่างสีที่นิยมอีกกลุ่มหนึ่งอย่างเปิดใจ เราจะได้ฟังได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยมองมาก่อนได้ ถ้าโชคดีอาจได้คำตอบว่าทำไมความคิดความเชื่อที่เราว่าดีนั้น คนอื่นดูอย่างไรจึงกลับเห็นว่าย่ำแย่ คนเดียวกันถ้าเป็นมิตรต่างสีจะช่วยเปิดหูเปิดตาให้เห็นความจริง แต่คนเดียวกันที่เป็นศัตรูต่างความคิดจะยิ่งปิดหูปิดตาจนหาความจริงไม่เจอ







