นักการตลาดดิจิทัล...มนุษย์การตลาดพันธุ์ใหม่แห่งยุค Digitization"
.
เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ไม่ว่าจะเป็น ดิจิไทซ์เซชั่น (Digitization) บิ๊กดาต้า (Big Data) หรือปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence) และอื่น ๆ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในระดับที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการ “ปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่” ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนในสังคม หนึ่งเรื่องที่มีผลกระทบใกล้ตัวกับผู้คนในสังคมมากที่สุดคือ สภาวะของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป จากการเข้ามาของเทคโนโลยี ส่งผลให้ตำแหน่งงานหลายตำแหน่งไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป โดยเฉพาะงานที่มีลักษณะทำซ้ำ ๆ มีตรรกะที่แน่นอน อย่างเช่นในวงการธนาคาร ที่นอกจากจะลดตำแหน่งงานแล้วยังขยับไปถึงการลดสาขาอีกด้วย หรือในภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ทุกวันนี้เป็นระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด โดยไม่ต้องกังวลกับความผิดพลาดของมนุษย์ คำถามที่สำคัญสำหรับคนยุคนี้และยุคต่อไปคือ เราจะเอาตัวรอดจากสภาวการณ์ดังกล่าวไปได้อย่างไร ยังมีอาชีพใดที่จะปลอดภัยจากการเข้ามาของเทคโนโลยีบ้าง และแท้จริงแล้วเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่น่ากลัวหรือไม่
ในมุมมองของอาจารย์ณัฐวรรธน์ ศรีสุข ผู้อำนวยการหลักสูตรการตลาดดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นคนหนึ่งที่กล้าบอกตรง ๆ ว่า อย่าไปกลัวเทคโนโลยี “ถ้าคุณกลัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็เป็นเพราะว่าเราไม่รู้จัก ที่คุณไม่รู้จักก็เพราะคุณไม่พยายามเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ แล้วคุณก็สร้างสมมติฐานขึ้นมาเองว่าคุณไม่ใช่คนในยุคนี้ ซึ่งที่จริงแล้วเทคโนโลยีเกิดมาเพื่อทำให้มนุษย์สะดวกสบายมากขึ้น” สิ่งที่อาจารย์ณัฐวรรธน์ต้องการสื่อก็คือ หากวันนี้คนในสังคมยังไม่ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง ยังไม่เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ไม่พยายามเข้าใจโลกที่กำลังเปลี่ยนไป ก็จะต้องถูกเปลี่ยนแบบไม่จำยอม และไม่สามารถที่จะคว้าโอกาสดี ๆ ในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นเพื่อวางรากฐานอนาคตให้กับคนยุคใหม่ได้อย่างมั่นคง มหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงกล้าที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้วยการเปิดหลักสูตร “การตลาดดิจิทัล” โดยเชิญคณาจารย์ที่มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานในวงการดิจิทัลเข้ามาร่วมสอนและออกแบบหลักสูตร
มนุษย์นักการตลาดสร้างโอกาสได้เสมอถ้ารู้จักปรับตัว ในฐานะนักการตลาดที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี และผู้อำนวยการหลักสูตรการตลาดดิจิทัล อาจารย์ณัฐวรรธน์ ศรีสุข บอกกับลูกศิษย์เสมอว่า “นักศึกษาที่เรียนวิชาการตลาดต้องไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง หัวใจของอาชีพนี้เทคโนโลยีเข้ามาทำแทนไม่ได้ทั้งหมด เพราะนักการตลาดทำหน้าที่ตอบสนองและสร้างความพึงพอใจอันสลับซับซ้อนของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามคนที่ทำอาชีพนี้ต้องปรับตัวให้เร็ว ต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน ที่สำคัญต้องเข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร มีธรรมชาติเป็นอย่างไร และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราจะอยู่กับมันได้อย่างไร” เพราะความต้องการของคนนั้นสลับซับซ้อน เทคโนโลยีอาจจะมีความสามารถในการประมวลผลและสังเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็วด้วยพลังที่มากกว่าสมองของมนุษย์จะทำได้ แต่ผลที่ได้จะออกมาเป็นกลุ่มรูปแบบกว้าง ๆ การแปลความหมายข้อมูลก็ถูกจำกัดไว้ในระดับหนึ่งตามขอบเขตเขียนโปรแกรมไว้ แต่สำหรับมนุษย์นักการตลาด ความสำคัญของอาชีพนี้คือตอบสนองความจำเป็นตามธรรมชาติ และความพึงพอใจที่มากไปกว่าความจำเป็นเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้บริโภค ซึ่งสลับซับซ้อนเกินกว่าที่เทคโนโลยีจะเข้าใจ แต่มนุษย์นักการตลาดต้องเข้าใจเทคโนโลยี ต้องสามารถใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ สร้างสรรค์เคมเปญการตลาดใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้บริโภคได้ ซึ่งอาจารย์ณัฐวรรธน์ ได้ย้ำว่า “ในปัจจุบันนี้ไม่มีมนุษย์นักการตลาดคนไหนที่ไม่ใช้ หรือไม่มีความสามารถด้านดิจิทัลอีกต่อไปแล้ว”
ปรับวิธีคิดให้เป็นดิจิทัล ในวันที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ถ้าใครไม่ปรับวิธีคิดไม่ปรับตัวหรือไม่เปลี่ยนตามให้ทันโลก คุณค่าของคน ๆ นั้นก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ของโลกใหม่ และสูญสิ้นความสามารถในการแข่งขันไปในที่สุด การปลูกฝังวิธีคิดแบบดิจิทัลให้กับนักศึกษาจึงเป็นหน้าที่สำคัญประการหนึ่งของณัฐวรรธน์ “ในฐานะอาจารย์ผมตระหนักว่า โลกกำลังเปลี่ยน สิ่งที่ผมสอนวันนี้พรุ่งนี้ก็อาจจะเปลี่ยน เทคนิควิธีการตลาดต่าง ๆ ที่เราใช้วันนี้พรุ่งนี้ก็เอ้าท์แล้ว เพราะโลกดิจิทัลทุกอย่างมาเร็วไปเร็ว สิ่งสำคัญที่ผมสอนก็คือ สอนให้เข้าใจความจริงของวิชาการตลาด และธรรมชาติของความเป็นดิจิทัล ที่สำคัญต้องสอนให้นักศึกษารู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง วันนี้ผลิตภัณฑ์ สินค้า การบริการสามารถเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างไรบ้าง มีรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ อะไรบ้าง และในฐานะนักการตลาดคุณจะทำหน้าที่ของคุณในการตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างไร”
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วไม่ใช่แค่นักการตลาด แต่ทุกคนทุกอาชีพต้องเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากการปรับวิธีคิดให้เป็นดิจิทัลแล้วอาวุธหนึ่งซึ่งสำคัญและทุกคนสามารถทำได้ก็คือ การมีความรู้และความชำนาญในเรื่องนั้นจริง ๆ ถามว่ารู้ในระดับไหน ก็ต้องรู้และเชี่ยวชาญในลักษณะที่เทคโนโลยีไม่สามารถเลียนแบบได้ “ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ จะมีเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งที่เครื่องจักรสามารถเรียนรู้ได้เอง แต่การเรียนรู้ทั้งหมดก็เกิดจากการสอนจากมนุษย์ ดังนั้นถ้าคุณเป็นตัวจริงในงานนั้น ๆ มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้ง หรือทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างสูง งานที่ใช้ความก้าวหน้าทางความคิด ผมก็ยังมั่นใจว่าเทคโนโลยีทำแทนเราไม่ได้หรอกครับ เพียงแค่คุณต้องรู้ในเรื่องนั้นให้ได้ในระดับที่เทคโนโลยีไม่สามารถทำได้เท่านั้นเอง” อาจารย์ณัฐวรรธน์ กล่าวทิ้งท้าย










