จับตา ‘ทุเรียนลาว’ ชิงส่วนแบ่ง ‘ไทย’ ส่งออกตลาดใหญ่ในจีน

ประเทศลาวได้รับการอนุมัติเริ่มส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีนได้แล้ว นับเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พยายามชิงส่วนแบ่งตลาดในจีน

เว็บไซต์สำนักงานศุลกากรของจีนระบุว่า เราได้รับอนุญาตให้เริ่มส่งออกทุเรียนสดได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นไปตามมาตรฐานสุขอนามัยพืช

เว็บไซต์สำนักงานศุลกากรของจีนระบุว่า เราได้รับอนุญาตให้เริ่มส่งออกทุเรียนสดได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นไปตามมาตรฐานสุขอนามัยพืช

ลาว กุมข้อได้เปรียบ

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ลาวอาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงสำคัญในตลาดทุเรียนของจีน ที่กำลังมีประเทศที่สามารถนำเข้าทุเรียนไปจีนได้มากขึ้น เนื่องจากลาวได้เปรียบด้านแรงงานราคาถูก โลจิสติกส์ และความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แข็งแกร่งกับปักกิ่ง

บริษัทต่างๆ ในลาวน่าจะสามารถรักษาราคาทุเรียนสดซึ่งปกติมีราคาสูงให้อยู่ในระดับต่ำได้ เพราะลาวมีที่ดิน และรายงานราคาถูก รวมไปถึงทางรถไฟที่เพิ่งเปิดให้บริการ สามารถเชื่อมต่อกรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว กับคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

“ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดคือ ระบบโลจิสติกส์ รองลงมาเป็นแรงงาน” ลิม ฉิน คี ที่ปรึกษาสถาบันศึกษาทุเรียน สถาบันฝึกอบรมเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในมาเลเซียกล่าว

ชิงส่วนแบ่งไทย ผู้นำส่งออกทุเรียนพรีเมียม

ลิมกล่าวว่า รสชาติทุเรียนลาว จะแตกต่างจากทุเรียนที่ปลูกในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย และเวียดนามเพียงเล็กน้อย เพราะปริมาณน้ำฝนในประเทศเหล่านี้คล้ายคลึงกัน ซึ่งไทยปัจจุบันเป็นผู้นำในตลาดจีน

ทุเรียนกว่า 90% ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดจะถูกส่งไปที่ตลาดจีน ซึ่งผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่า ราชาแห่งผลไม้ ได้รับความนิยมอย่างมาก และมักถูกมอบเป็นของขวัญในงานพิธีต่างๆ เช่น งานแต่งงาน ซึ่งทุเรียนสดหนึ่งลูกน้ำหนัก 6 กิโลกรัม สามารถขายได้ในประเทศจีน ราคาสูงถึง 200 หยวน หรือประมาณ 28 ดอลลาร์

เปิดมูลค่า ตลาดทุเรียนจีน

ข้อมูลสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า ปีที่แล้วจีนนำเข้าทุเรียนสูงถึง 6.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นสถิติสูงสุด ซึ่งประมาณ 57% มาจากประเทศไทย ขณะที่เวียดนามมีสัดส่วน 38% ส่วนกัมพูชา มาเลเซีย และฟิลิปปินส์นำเข้าในปริมาณที่น้อยกว่า

ปักกิ่งใช้การค้าสร้างสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับประเทศในเอเชียตะวันออกเชียงใต้มานานหลายปี ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนเรียกว่า “การทูตทุเรียน” ขณะที่ภูมิภาคนี้มีความสำคัญต่อจีนมากขึ้น ท่ามกลางระหว่างที่ความสัมพันธ์จีนกับสหรัฐเริ่มเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น

ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีนได้เยือนลาวในเดือนตุลาคม 2567 ได้กล่าวไว้ว่า ปักกิ่งจะยังคงทำงานร่วมกันกับเวียงจันทน์ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศลาว จากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ไปเป็นประเทศที่มี “เส้นทางเชื่อมต่อทางบก” ผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

ราจิฟ บิสวัส ซีอีโอบริษัทวิจัยเอเชียแปซิฟิกอีโคโนมิกส์ ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์ กล่าวว่า จีนกำลังช่วยเหลือลาวในการส่งออกสินค้าเกษตรมากขึ้น ผ่านทางเส้นทางรถไฟสายตรงระหว่างเวียงจันทน์กับคุนหมิง

การทูตทุเรียน เสริมสัมพันธ์

ราจิฟ กล่าวว่า การที่จีนตัดสินใจอนุญาตให้เราสามารถส่งออกทุเรียนสดไปยังตลาดจีนได้ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีระหว่างลาวกับจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมไปถึงขยายความสัมพันธ์จีนกับอาเซียน ในด้านการค้าสินค้าเกษตร

“เรื่องนี้ได้รับอนุมัติจากจีน ถือเป็นการเสริมศักยภาพลาวที่สำคัญ ในการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ในประเทศจีน” ราจิฟ กล่าวเสริม

ลิมอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวเดอะลาวนิวส์ รายงานว่า ผู้ปลูกทุเรียนในลาว “สำรวจโอกาสในการเข้าสู่ตลาดจีน” ในปี 2567 แต่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเกี่ยวกับการค้า เพื่อขยายขนาดธุรกิจ

ประเทศลาวมีเป้าหมายจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียน ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทุเรียนในประเทศ 125,000 ไร่ โดยมีต้นทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้ว 10,000 ต้น และตั้งเป้าเก็บเกี่ยวทุเรียนประมาณ 270,000 ต้นภายในปี 2569 เพื่อให้ได้ผลผลิต 24,300 ตัน ตามรายงานของสื่อลาว

อ้างอิง SCMP