หุ้นกลุ่มการเงินทะยานหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

หุ้นกลุ่มการเงินทะยานหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (19ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานอย่างต่อเนื่องกว่า 100 จุด เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนมองว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะไม่รุนแรงมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 158.8  จุดหรือ 0.61 % ปิดที่ 26,405.76 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 3.64 จุดหรือ 0.13% ปิดที่ 2,907.95 จุดและดัชนีแนสแด็ก ร่วง 6.07 จุดหรือ 0.08% ปิดที่ 7,950.04 จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดในวันนี้ และหุ้นโบอิ้งดีดตัวขึ้น 1.8% ขณะที่หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ทะยานขึ้น 2.2% ซึ่งหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ

ขณะที่ราคาหุ้นเทสลาร่วงลง 0.6% สวนทางตลาด เพราะได้รับผลกระทบจากการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แจ้งให้บริษัทส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการที่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ได้ทวีตข้อความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการนำเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด

ที่ผ่านมา นายมัสก์ได้ทวีตข้อความในวันที่ 7 ส.ค.ว่า เขามีแผนที่จะนำบริษัทเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด โดยเขามีแหล่งเงินทุนที่จะเข้าซื้อหุ้นที่ระดับราคา 420 ดอลลาร์ ซึ่งข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นแตะ 387.46 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นักกฎหมายเตือนว่า การทวีตข้อความของนายมัสก์ เสี่ยงที่จะทำให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) สั่งปรับบริษัท และอาจทำให้นายมัสก์ถูกดำเนินคดีอาญา

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง