กังวลสงครามการค้าฉุดดาวโจนส์ทรุดเกือบ300จุด

กังวลสงครามการค้าฉุดดาวโจนส์ทรุดเกือบ300จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (19มิ.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง ดิ่งลง 287 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงขึ้น และกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่ม

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 287.26 จุดหรือ 1.15% ปิดที่ 24,700.21 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ลบ 11.18  จุดหรือ 0.40% ปิดที่ 2,762.57 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วง 21.44 จุดหรือ 0.28% ปิดที่ 7,725.59 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพหลายรายต่างร่วงลงราว 1.5% เนื่องจากมีการส่งออกไปยังจีนจำนวนมาก ขณะที่หุ้นบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งมีการลงทุนในจีน ดิ่งลง 2.4%

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับเตือนว่า หากรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐอีก เพื่อตอบโต้แผนเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ในอัตรา 10% สหรัฐก็พร้อมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

ด้านกระทรวงพาณิชย์จีน ออกแถลงการณ์วันเดียวกันว่า รัฐบาลจีนพร้อมตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทั้งสหรัฐและจีนมีขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้สหรัฐด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ค. โดยพุ่งขึ้น 5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.350 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 หลังจากร่วงลงสู่ระดับ 1.286 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.310 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.