ราคาน้ำมันดิบปิดทะยานสูงสุดรอบกว่า 3 ปี

ราคาน้ำมันดิบปิดทะยานสูงสุดรอบกว่า 3 ปี

โอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันอังคาร (9ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์  หรือ 2%  ปิดตลาดที่ราคา 62.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากแตะระดับ 62.80 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557 ซึ่งราคาน้ำมันแตะ 63.24 ดอลลาร์ในขณะนั้น ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดตลาดที่ราคา 68.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ มีสัญญาณว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่สัญญาไว้ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดเกิดภาวะตึงตัว

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ในวันนี้ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ในวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันจะลดลง 4.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน และวิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา รวมทั้งจากการที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 742 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัวมากกว่าการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกทั้งในปีนี้ และปีหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มไม่ต่ำกว่าระดับ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล