'สมุนไพร' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

'สมุนไพร' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

ใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกที ใครที่ยังมองหาของขวัญปีใหม่ให้กับคนที่รัก ‘สมุนไพร’ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการส่งมอบความสุขให้ผู้รับมีสุขภาพดี หาซื้อง่าย แต่ที่สำคัญ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ

Key Point : 

  • สมุนไพรไทย สรรพคุณหลากหลาย สามารถบรรเทาอาการต่างๆ ได้ โดยมีทั้งแบบผลิตภัณฑ์ที่ขาย และ หาได้จากสวนครัว
  • หากใครยังหา 'กระเช้าปีใหม่' ไม่ได้ สมุนไพร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ของขวัญสุขภาพที่มอบความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ
  • นอกจากนี้ ในการเดินทางกลับบ้านปีใหม่ กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะ 6 ยาสมุนไพร แก้อาการเจ็บป่วยเบื้องต้น พกติดตัวไว้ หายห่วงขณะเดินทาง

 

 

สมุนไพร มีสรรพคุณที่หลากหลาย และบางอย่างสามารถหาได้จากพืช ผัก ในครัวเรือน หนึ่งในสรรพคุณของ สมุนไพร คือ ช่วยบรรเทาความเครียด วิตกกังวล ซึ่งศาสตร์การแพทย์แผนไทยนั้น ข้อมูลจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยว่า คนที่มีอาการเครียด จะเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก นอนไม่หลับ การบรรเทาความเครียดโดยใช้พืช ผัก สมุนไพรมาปรุงเป็นอาหาร โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มเครื่องเทศและกลุ่มดอกไม้หอม

 

  • สมุนไพร บรรเทาเครียด

กลุ่มเครื่องเทศที่มีฤทธิ์ร้อน ได้แก่ ขิง ขมิ้นชัน กะเพรา กระเทียม กระชาย ตะไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด มะนาว จะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี สามารถบรรเทาอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการการบีบตัวของลำไส้ ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้เป็นปกติและยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ร่างกายแข็งแรง สำหรับเมนูอาหารที่สามารถนำสมุนไพรกลุ่มนี้ไปทำเป็นอาหาร ได้แก่ ต้มยำ ต้มโคล้ง ต้มจืดกะเพราและเมนูยำต่างๆ ที่สำคัญคือ ต้องปรุงสุก สด ใหม่เสมอ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

กลุ่มดอกไม้หอม ได้แก่ ดอกมะลิ จำปี จำปา และกุหลาบมอญ กลิ่นของสมุนไพร ดังกล่าว มีผลต่อสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี ความเครียด ช่วยให้นอนหลับได้สนิทและลดอาการตึงเครียดในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้อีกด้วย

 

\'สมุนไพร\' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

 

สมุนไพร ดูแลวัยทอง

สำหรับในกลุ่มวัยทอง มักเกิดจากการเสียสมดุลของธาตุทั้ง 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุลมและธาตุไฟ (เลือดจะไปลมจะมา) เป็นภาวะที่ธาตุไฟ หรือความร้อนในร่างกายกำลังลดลง ในขณะเดียวกัน ธาตุลมก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งธาตุลม มีความสัมพันธ์กับอาการวิตกกังวล คิดมาก นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ปวดชาตามมือตามเท้า ผิวหนังแห้ง ช่องคลอดแห้ง วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น

 

การรักษาจึงเน้นไปที่การปรับสมดุลของระบบเลือดลม ระบบประสาท การบำรุงโลหิต บำรุงเลือดลมให้บริบูรณ์ ทั้งการใช้สมุนไพรและตำรับยาแผนไทย โดยเน้นใช้สมุนไพรที่มีรสสุขุมหอมเพื่อคุมธาตุลมไม่ให้กำเริบหรือมีมากเกินไป ได้แก่

1) กลุ่มยาหอม เช่น ยาหอมเทพจิตร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ ยาหอมแก้ลมวิงเวียน แก้ลมวิงเวียน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ยาขิง บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด

 

2) กลุ่มยาบำรุงเลือด เช่น ยาลูกแปลกแม่ (ตำรับยาแผนโบราณ ประกอบด้วยสมุนไพร 3 ชนิด คือ

  • กล้วยน้ำไท 1 หวี พริกไทย 1 กำมือ มะตูมนิ่ม 1 ผล) มีสรรพคุณ บำรุงเลือดลมสตรี กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ และเป็นยาอายุวัฒนะ
  • กวาวเครือขาว บรรเทาอาการของสตรีวัยทอง เช่น อาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย กระสับกระส่าย ช่องคลอดแห้ง และประจำเดือนมาไม่ปกติ ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ เนื่องจากมีสารที่มีโครงสร้างทางเคมีและออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง (ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งมดลูก และ มะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกที่ไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ควรใช้)

 

 

3) กลุ่มยาบรรเทาอาการในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่สุด ได้แก่ ชากระเจี๊ยบแดง และชาตะไคร้ สำหรับสตรีวัยทองที่ประสบปัญหาสุขภาพอื่นๆ สามารถขอเข้ารับการรักษาหรือปรึกษากับแพทย์แผนไทย เพื่อบรรเทาปัญหาของสตรีวัยทอง ยังมียาสมุนไพรตำรับอื่น หรือการใช้ยาปรุงเฉพาะรายเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล

 

นอกจากยาสมุนไพรแล้ว ยังมีหัตถการ การนวดและประคบสมุนไพรจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามตัว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และหัตถการการอบไอน้ำสมุนไพร โดยมีข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า กลุ่มผู้ที่อบไอน้ำสมุนไพรจะมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหัตถการอบไอน้ำสมุนไพร สำหรับการอบไอน้ำสมุนไพรสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมถึง ยังมีผลดีกับระบบทางเดินหายใจอีกด้วย

 

\'สมุนไพร\' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

 

3 ไอเดีย กระเช้าสมุนไพร

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แชร์ไอเดีย 3 กระเช้าสมุนไพร ของขวัญปีใหม่ ใส่ใจสุขภาพ เน้นสมุนไพรเด่น เช่น ชุดกระเช้าผลไม้ต้านหวัด ชุดกระเช้าธัญพืชต้านอนุมูลอิสระ และ ชุดกระเช้าต้นสมุนไพรรักษ์โลก รักสุขภาพ ทางเลือกเพื่อสุขภาพดีรับปีใหม่ สุขใจผู้ให้ ถูกใจผู้รับ

 

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ประชาชนมักพบปัญหาจากการเลือกซื้อกระเช้าปีใหม่ ทั้งจากปัญหาราคาที่แพง และสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เสนอแนวคิดมอบกระเช้าสมุนไพร 3 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกส่งมอบความสุขให้ผู้รับมีสุขภาพดี หาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั่วไปมาจัดกระเช้า ประกอบด้วย

 

ชุดที่ 1 ชุดกระเช้าผลไม้ต้านหวัด

เทศกาลปีใหม่จะตรงกับช่วงฤดูหนาว ประชาชนส่วนใหญ่มักมีอาการหวัด ตามศาสตร์แผนไทย แนะนำให้รับประทานสมุนไพรหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว สรรพคุณ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ เช่น ส้ม มะนาว ตะลิงปลิง มะขามป้อม มะขาม มะเขือเทศ กระเจี๊ยบแดง และ สับปะรด ผลไม้ดังกล่าวอุดมไปด้วยวิตามินซีป้องกันไข้หวัด ทำให้ผิวพรรณสดใส

 

\'สมุนไพร\' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

 

ชุดที่ 2 ชุดกระเช้าธัญพืชต้านอนุมูลอิสระ

มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยระบบขับถ่าย และป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวดำ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ งาดำ ลูกเดือย และเม็ดบัว เป็นต้น

 

\'สมุนไพร\' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

 

ชุดที่ 3 ชุดกระเช้าต้นสมุนไพรรักษ์โลก รักสุขภาพ

นิยมนำต้นสมุนไพรที่ปลูกง่ายมาจัดกระเช้านอกจากนำไปปลูกลดโลกร้อนยังสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารซึ่งสมุนไพรเหล่านี้สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ เช่น

  • กะเพราแดง มีรสเผ็ดร้อน ขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง
  • ขิง มีรสเผ็ดร้อน บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แน่นจุกเสียด ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน จากอาการเมารถ เมาเรือ
  • ตะไคร้ สรรพคุณ ช่วยขับลม ช่วยเจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
  • ช้าพลู มีรสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • สะระแหน่ ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บัวบก แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ช้ำใน ใช้เป็นยาภายนอกรักษาแผลช่วยให้แผลหายเร็ว
  • ฟ้าทะลายโจร มีรสขม แก้ไข้ บรรเทาอาการของโรคหวัด
  • มะกรูด น้ำมะกรูด มีรสเปรี้ยว แก้ไอ ขับเสมหะ และใช้บำรุงเส้นผม ผิวมะกรูดมีกลิ่นหอม แก้อาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
  • มะระขี้นก มีรสขม แก้ไข้ แก้ร้อนใน ช่วยเจริญอาหาร ผลมะระขี้นกใช้รับประทาน แต่หากผลสุกสีเหลืองห้ามรับประทาน เพราจะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน จากข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า มะระขี้นก มีสารชาแรนติน (charantin) ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
  • ว่านหางจระเข้ วุ้นของว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การใช้ต้องล้างให้สะอาด ควรระวังยางสีเหลืองหากสัมผัสกับผิวหนังจะเกิดอาการระคายเคือง เป็นต้น

 

\'สมุนไพร\' ทางเลือกสุขภาพ ส่งมอบความสุข เทศกาลปีใหม่

 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการเลือกซื้อกระเช้าผลิตภัณฑ์สมุนไพร ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ ฉลากผลิตภัณฑ์ต้องแสดงวันเดือนปีที่หมดอายุ ซึ่งตรงนี้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ควบคุมอยู่แล้ว กระเช้าปีใหม่ปีนี้ ขอให้เป็นการมอบความสุขด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษอันทรงคุณค่า อีกด้วย

 

6 ยาสมุนไพร แก้อาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ขณะเดินทาง

สำหรับ ในเทศกาลปีใหม่ ที่ทุกคนต่างพากันเดินทาง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ยาสมุนไพร ที่ควรมีประจำรถ ประจำตัว เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น อาทิ

1.ยาฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ บรรเทาอาการเจ็บคอ โรคหวัดและใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีความรุนแรงน้อยรวมไปถึงบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ ไม่เกิดจากการติดเชื้อ มีข้อห้ามใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่แพ้ฟ้าทะลายโจร และ ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีตุ่มหนองในลำคอ

2.ยาหอมอินทจักร์ ใช้แก้วิงเวียนศีรษะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์

3.ยาขี้ผึ้งไพล บรรเทาอาการปวดเมื่อย

4.ยาเหลืองปิดสมุทร บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ไม่มีไข้

5.ยาขิง บรรเทาอาการท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด ป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่มีสาเหตุจากการเมารถ เมาเรือ ซึ่งยาทั้ง 5 ชนิดนี้ เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร สามารถเบิกจ่ายยาดังกล่าวได้ตามสิทธิ์ในโรงพยาบาลของรัฐ

6. ยาดมสมุนไพร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย และช่วยให้สดชื่นในระหว่างการขับขี่ยานพาหนะด้วย

 

นอกจากยาเหล่านี้ ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะทางไกลทุกชนิด ควรพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะจะส่งผลให้สมรรถนะ ในการขับขี่ยานพาหนะลดลง และ ควรตรวจสอบยานพาหนะของท่าน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และ ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อีกด้วย