วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก วุฒิสภาเห็นชอบร่างงบประมาณปี 67

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก วุฒิสภาเห็นชอบร่างงบประมาณปี 67

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ แต่ดัชนีสามารถยืนในแดนบวกได้ในภาคบ่าย แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก และอิเล็กทรอนิกส์ โดยกระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. โต 3.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด โต 3.9-4.3% ป

ปัจจัยที่นักลงทุนจับตาคือการรายงาน PCE สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้  ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,377.23 จุด +4.74 จุด +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 41,002 ลบ. Program Trading +650.36 ลบ. ต่างชาติ +1,428.61 ลบ. TFEX +13,288 สัญญา ตราสารหนี้ +463.47 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 70.4% ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 59.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว
+ โพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารเพิ่มอีกในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำหนดไว้ราว 5% ขณะที่คาดการณ์ว่า GDP ของจีนอาจขยายตัวเพียง 4.6% ในปีนี้
+ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 3 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 186 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยจะจัดส่งให้ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป
+ ภาพรวมสัปดาห์ทึ่ผ่านมา (18-24 มีนาคม 2567) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 651,318 คน +0.97%WoW หรือเฉลี่ยวันละ 93,046 คน
+/- ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ใน 1Q67

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 31.31 จุด หรือ -0.08% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยของ FED
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 33 เซนต์ หรือ -0.4% ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนจับตาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง เพื่อประเมินว่าจะส่งผลกระทบอุปทานน้ำมันในตลาดโลกมากเพียงใด
 

- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 104.8 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 106.9
- อุบัติเหตุเรือขนส่งสินค้าชนสะพานถล่มในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกาเมื่อคืนวันอังคารที่ 26 มี.ค. ทำให้การค้าผ่านท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญของสหรัฐหยุดชะงัก
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า เดือน ก.พ.67 ไทยผลิตรถยนต์ได้ 133,690 คัน ลดลง 19.28%YoY จากการผลิตรถกระบะลดลง ขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์บางชิ้น และถูกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่นำเข้าแย่งส่วนแบ่งตลาด
- ภาวะการค้าระหวางประเทศของไทย เดือนก.พ.67 ว่าการส่งออก มีมูลค่า 23,384 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 3.6%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดขยายตัว 3.9-4.3% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออก มีมูลค่ารวม 46,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6.7%

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,370-1,385 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• วุฒิสภาเห็นชอบพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 : CK STEC TASCO CRANE
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL
• สินค้าส่งออกเดือน ก.พ. ที่เติบโตดี : NER STA TU ITC AAI HANA KCE

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

JPARK ("ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ราคาเหมาะสม 5.60 บาท) 
ปี 67 ตั้งเป้าบริหารลานจอดรถเติบโตมากกว่า 30%

•คาดผลประกอบการปี 2567 เติบโตโดดเด่น โดยมีสาเหตุหลักจาก 1) ความหนาแน่นของประชากรในเขตเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการที่จอดรถมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 2) ได้แรงหนุนจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่ยังเติบโต โดยวิจัยกรุงศรี คาดยอดขายรถยนต์ในประเทศในปี 2567 จะขยายตัว 6.00% 3) การขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ได้บรรจุมาตรการจัดพื้นที่จอดรถไว้ในแผน (ปี 2565-2569) เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นต้น 4) อยู่ระหว่างพัฒนา Application “Prompt Park” ซึ่งมีฟังก์ชั่นสารองที่จอดรถ และ ชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นต้น 5) บริษัทมีแผนนาเงิน IPO ไปลงทุนก่อสร้างอาคารจอดรถ และบริหารที่จอดรถ ในรูปแบบ Build Operate Transfer (ระยะเวลาเช่า 30 ปี) บริเวณโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งที่ 532 ช่องจอด และพื้นที่เชิงพาณิชย์ราว 2 พันตรม.คาดจะแล้วเสร็จในปี 3Q67

•ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 คาดว่าจะทำได้ที่ระดับ 24-25% ใกล้เคียงกับก่อน เนื่องจากต้นทุนจากให้บริการส่วนใหญ่เป็นค่าเช่า และค่าแรงพนักงาน ด้าน %SG&A/Sales ปี 2567 คาดที่ 7.0-8.0% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลังในภาวะปกติของบริษัท เราประมาณการรายได้ปี 2567 ราว 692.4 ล้านบาท เติบโต +20.6%YoY พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2567 ที่ระดับ 94.5 ล้านบาท เติบโต +50%YoY

ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบปี 67 โดยบริษัทตั้งเป้าบริหารลานจอดรถในปี 2567 แตะ 40,000 ช่องจอด คิดเป็นอัตราการเติบโตมากกว่า 30% จากในปัจจุบันที่บริษัทบริหารลาดจอดรถอยู่ที่ 29,562 ช่องจอด โดยล่าสุดบริษัทได้รับสัญญาในการให้บริการที่จอดรถ (PS) ให้กับสนามบินขอนแก่น จำนวน 600 ช่องจอด อายุสัญญาเช่า 10 ปี และรับบริหารจัดการพื้นที่จอดรถในโครงการ (PMS) One Bangkok จานวน 2,000 ช่องจอด ราคาหุ้นในปัจจุบันสูงกว่าราคาเหมาะสมปี 2567 ของเราที่ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นมีข่าว

(+) AAV (Bloomberg consensus 2.80 บาท) บินไทย-จีน กระแสดีหลังฟรีวีซ่าถาวรยอดพุ่ง 3 เท่า เดินหน้าโกยจีน 1.3 ล้านราย ล่าสุดเปิดบินดอนเมือง-ปักกิ่งผลตอบรับดี เล็งเพิ่มเที่ยวบินใน-นอก สงกรานต์เพิ่ม 3 พันที่นั่ง เกาะติดโควตาบินอินเดียสรุป Q2 เตรียมรับเครื่องบินเพิ่ม Q3 ชูมาร์เก็ตแชร์แตะจุดสูงสุด 39% ต้นทุนข้างหน้าลด ทั้งดอกเบี้ยและค่าปรับปรุงเครื่องบินดันมาร์จิ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAPPE (Bloomberg consensus 105.50 บาท) ออกสินค้าใหม่ 5 รายการ ชิงยอดขายช่วงฤดูร้อน มั่นใจยอดขายไตรมาส 1 ปีนี้โต พร้อมรีแบรนดิ้ง "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" เป็น เซ็ปเป้ บิวติ หวังดันยอดขายในประเทศ-แตกไลน์สินค้า Non-Drink มากขึ้น ส่วนต่างประเทศ เน้นเพิ่มช่องทางขาย หนุนรายได้ทั้งปี 2567 โต 20-25% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 6.19 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GABLE (Bloomberg consensus 5.90 บาท) ผนึก Workday พันธมิตรใหญ่ระดับโลก นำเทคโนโลยี Total HR Solutions ลุยตลาดในไทย เพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เชื่อมีดีมานด์อยู่มาก ตั้งเป้าผู้ใช้งานระบบเพิ่มขึ้น 30 ล้านราย ภายใน 3-5 ปี เล็งเจาะกลุ่มลูกค้าใน SET100 แย้มปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาหลายดีล หนุนรายได้ปีนี้เติบโต 15% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MTW (Bloomberg consensus 3.68 บาท) ประกาศความแข็งแกร่งของธุรกิจจาหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นพระเอกในการส่งกำไรให้บริษัทเติบโตกว่า 2 เท่าในปีก่อน คาดปี 2567 เดินหน้า All Time High วางเป้ารายได้โตอีก 100% (ที่มา ทันหุ้น)