วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,397.43 จุด -9.18 จุด -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 32,806 ลบ. Program Trading -496.46 ลบ. ต่างชาติ -1,153.46 ลบ. TFEX -7,220 สัญญา ตราสารหนี้ -5,869.89 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 117.12 จุด หรือ +0.33% ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากตลาดเปิดทำการเพียงครึ่งวันหลังปิดทำการวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่นักลงทุนพิจารณาแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลชอปปิง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 1.3%
+ ทั่วโลกจับตาการพักรบชั่วคราวระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งมีข้อตกลงการพักรบเป็นเวลา 4 วัน โดยกาตาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา
+ WHO เปิดเผยว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีนไม่พบเชื้อโรคที่ผิดปกติหรือชนิดใหม่ ๆ และได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของโรคระบบทางเดินหายใจและคลัสเตอร์ของโรคปอดอักเสบ (pneumonia) ในเด็กตามที่ WHO เรียกร้อง
+ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเร่งสรุปพิจารณามาตรการสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยเหลือทั้งลูกหนี้ในระบบและนอกระบบ

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ -2.02% ปิดที่ 75.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากการปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และราคาร่วงลงก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ามันในปีหน้า
- กระทรวงการคลังอิสราเอลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอิสราเอลจะขยายตัวเพียง 2% ในปี 2566 ชะลอตัวจากคาดการณ์เดิมที่ 2.7% ผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
 

- ทางการฮ่องกงสั่งกำจัดสุกรเกือบ 2,000 ตัว หลังยืนยันตรวจพบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ครั้งที่ 2 ในรอบเดือน
- โรงงานผลิตยางรถบรรทุก 5 รายใหญ่ในสหรัฐกล่าวหาประเทศไทยดัมพ์ราคาทุ่มตลาด หวั่นทำส่งออกยางรถบรรทุกสะดุด เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท
- สายการบินจีนกว่า 10 แห่งยกเลิกเที่ยวบินมาไทยในช่วงเดือนธ.ค. 66 - ม.ค. 67 ทำให้เที่ยวบินที่ยืนยันเดินทางหายไป 39% หรือ กว่า 8,648 เที่ยวบิน เนื่องจากไม่มีดีมานด์จำนวนนักท่องเที่ยวมากพอ
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนไทยเทียบกับ GDP ใน 2Q66 ทรงตัวที่ 86.3% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสแรก หนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 80% ของ GDP เป็นระดับที่ต้องเฝ้าระวังและอาจฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ ที่ไหลออกต่อเนื่องจนดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,400 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,390-1,405 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP

 

 

 

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

BCH "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus 23.40 บาท
มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q66 และปี 67

•งวด 3Q66 มีกำไร 441 ลบ. +55%QoQ และพลิกจาก 3Q65 ที่ขาดทุน 403 ลบ. ซึ่งไตรมาสดังกล่าวมีบันทึกผลขาดทุนที่เกี่ยวกับวัคซีนโมเดอร์นาราว 900 ลบ. (กำไรปกติ 3Q66 -12%YoY) ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3,196 ลบ. -7.4%YoY +14.5%QoQ หดตัวจาก YoY จากฐานปีก่อนที่ยังมีรายได้เกี่ยวกับโควิด-19 แต่เติบโต QoQ จากการเข้าสู่ High Season ที่มีโรคประจำฤดู อาทิ ไข้หวัดใหญ่ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก และได้ผลบวกจากการปรับค่าหัวประกันสังคมเพิ่มขึ้นราว 10% เต็มไตรมาส (ปรับ 1 พ.ค. 66)

•คาด 4Q66 จะโต YoY และ QoQ แม้ผ่านพ้นช่วง High Season โดยปัจจัยสนับสนุนคือ 1) การปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมตั้งแต่ 1 พ.ค. 66 2) โรคไข้หวัดใหญ่ยังมีในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. และ 3) โมเมนตัมจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ (ตะวันออกกลางและ CLMV) ยังดีขึ้นต่อเนื่อง โดย ผู้บริหารคงเป้ารายได้ทั้ง 66 ราว 1.2-1.3 หมื่นลบ (9M66 ทำได้ราว 70%) และคาดอัตราการทำกำไรจะปรับดีขึ้นหลังจาก รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (KIH) เวียงจันทน์ คืนหนี้สกุลบาทไปหมดแล้ว ทำให้จะไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 1,450 ลบ. -52%YoY (9M66 คิดเป็น 68% ของประมาณการทั้งปี)

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q66 และปี 67 ที่คาดจะโตต่อเนื่องโดยมีปัจจัยหนุน คือ 1) จำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นราว 50,000 ราย (ปัจจุบัน 1.01 ล้านราย) 2) ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี เปิดช่วง 3Q67 3) โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (KIH อรัญประเทศ KH ปราจีนบุรี และ KIH เวียงจันทน์) มีผลประกอบการดีขึ้น และ 4) แนวโน้มจำนวนคนไข้ต่างประเทศปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 23.4 บาท เหลืออัพไซต์ 11% ประกอบกับหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 9 % ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแข็งกว่ากลุ่มที่หดตัว 8% จึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

หุ้นมีข่าว

(+) TOG (Bloomberg consensus 11.10 บาท) กางแผนปี 2567 ยอดขายเติบโต 18-20% รับอานิสงส์การสนับสนุนด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO) เดินสายออกอีเวนต์ในสหรัฐ หนุนออเดอร์ลูกค้าใหม่เติมพอร์ตเพิ่ม วางเป้ายอดขายสหรัฐโตต่อเนื่องตัวเลขสองหลัก เล็งศึกษาการลงทุนตั้งโรงงานผลิตแห่งที่ 2 ในต่างประเทศ จับตายอดขายไตรมาส 4/2566 เด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FSMART (Bloomberg consensus - บาท) ขยายไลน์ธุรกิจ "เต่าบิน" สู่ "เต่าบินคาเฟ่" ประเดิมที่แรกเดือนธันวาคมนี้ พร้อมเร่งขยายเครื่องชาร์จอีวี "GINKA" ปักเป้า 5 พันจุดใน 1 ปี ดันธุรกิจสู่ New S-Curve โกยรายได้ระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg consensus 80.00 บาท) เล็งปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) จาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน และค่า PSC สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100 บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคน เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WPH (Bloomberg consensus - บาท) กางแผนปี 2567 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 17% หรือแตะที่ระดับ 1.75 พันล้านบาท รับอานิสงส์เปิดประเทศท่องเที่ยว-เพิ่มเส้นทางการบิน หนุนต่างชาติแห่เที่ยวภาคใต้เพิ่ม เตรียมลงทุนเพิ่มพื้นที่เตียง รพ.ที่อ่าวนาง อีก 31 เตียง เพิ่มเป็น 96 เตียง รองรับการขยายตัวของคนไข้ มั่นใจผลงานปี 2566 โตเข้าเป้า 1.5 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)