ชิมอาหารอาร์เจนตินาฉลอง '70 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต'

ในวาระครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ตลอดทั้งปี 2568 สถานเอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาประจำประเทศไทยโดยฆาเบียร์ เด ซิกโก้ อุปทูตรักษาการจัดกิจกรรมหลากหลาย และปิดท้ายด้วยความตื่นตาตื่นใจกับงานสาธิตการทำอาหารอาร์เจนตินา (Argentine Culinary Demonstration) โดย เชฟ ปาตริเซีย กูร์ตัวส์ ที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เมื่อสัปดาห์ก่อน

ปาตริเซีย เชฟผู้มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีบินตรงจากอาร์เจนตินามาไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ การสาธิตเมนูแรกเริ่มต้นด้วยเอ็มปานาด้าเนื้อ หรือ พายเนื้อ (ตัวแทนจากบัวโนสไอเรสและภาคกลางของอาร์เจนตินา) นำเนื้อวัวบดมาผัดกับเครื่องเทศแห้งของอาร์เจนตินา เช่น ยี่หร่า ออริกาโน พริกป่นสองสีเหลือง-แดง ทำเป็นไส้จากนั้นนำไปห่อกับแป้งเหมือนห่อเกี๊ยวแล้วไปอบอีกที 

ปาตริเซียเล่าว่าสูตรที่สาธิตเป็นสูตรท้องถิ่นเมนูนี้ต้องช่วยกันทำในครอบครัว แต่ละครอบครัวมักจะแข่งขันกันด้วยว่าใครห่อแป้งจับจีบได้สวยกว่ากัน เคล็ดลับความอร่อยของไส้อยู่ที่ใช้เนื้อบดและหอมใหญ่สับในสัดส่วนพอๆ กันเพื่อความฉ่ำของเนื้อ ส่วนตัวแป้งต้องให้ผู้หญิงนวดเพื่อความนุ่ม  จากนั้นนำไปอบ วิธีดั้งเดิมคืออบในเตาไม้อุณหภูมิสูงมาก 360 องศา แต่จะอบในเตาไฟฟ้าหรือทอดก็ได้ ถือว่าง่ายไปอีกแบบ

เนื้อวัวอาร์เจนตินาได้ชื่อว่าเป็นเนื้อดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการเลี้ยงในทุ่งปล่อยให้วัวได้กินหญ้าอย่างอิสระ ทำให้เนื้อมีไขมันต่ำ เนื้อสัมผัสนุ่ม รสชาติอร่อย แล้วอย่างนี้เชฟจะทำเมนูเนื้อวัวเพียงเมนูเดียวได้อย่างไร  อีกหนึ่งเมนูที่เชฟนำเสนอคือเอ็มเบยู และสเต็กเนื้อเสิร์ฟพร้อมซอสชิมิชูรี (ตัวแทนจากภูมิภาคทางตอนเหนือ) เนื้อหมักสมุนไพรอย่างน้อยหกชั่วโมง หากเนื้อชิ้นใหญ่ก็ต้องหมักนานขึ้น อบแล้วทานคู่กับซอส อารมณ์แรกเห็นเหมือนเนื้อย่างจิ้มแจ่ว รสชาติเนื้อเพียวๆ อาจเค็มไปนิด แต่รับประทานกับซอสช่วยให้รสชาติกลมกล่อม  (เอ็มเบยู)

(เสต็กเนื้อ)

ใช่ว่าจะมีแต่เนื้อวัวดี กุ้งอาร์เจนตินาก็อร่อยไม่แพ้ใคร พิสูจน์ได้จากเมนู

กุ้งในซอสข้าวโพด (ตัวแทนจากภูมิภาคปาตาโกเนีย ทางตอนใต้ของอาร์เจนตินา) ซึ่งกุ้งแดงอาร์เจนตินาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย เป็นกุ้งธรรมชาติ 100% จากแหล่งน้ำลึกและสะอาดปราศจากมลพิษของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้  คุณภาพจึงยอดเยี่ยม นำมาปรุงอาหารกุ้งสีแดงโดดเด่นชัดเจนบนจานน่ารับประทาน แถมเนื้อยังหวานนุ่ม แตกต่างจากกุ้งที่คนไทยเราคุ้นลิ้น สนใจอยากลิ้มลองหาซื้อได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต 

มีของคาวแล้วของหวานก็ต้องมา  โรเคล อัลฟาฆอร์ หรือ เลเยอร์แพนเค้กที่สอดไส้ดุลเซ เด เลเช (ภาษาสเปนแปลว่า รสหวานจากนม) สเปรดคาราเมลสุดไอโคนิคของอาร์เจนตินาที่ทำโดยการเคี่ยวนมข้นหวาน ใส่น้ำตาล กลิ่นวานิลลา และเบกกิงโซดาเล็กน้อย  ส่วนผสมนี้พบได้ในขนมหวานของอาร์เจนตินาเกือบทุกชนิด 

แม้เป็นเลเยอร์แพนเค้กแต่ชิมแล้วเหมือนเลเยอร์ขนมปังกรอบมากกว่า เชฟปาตริเซียนำแพนเค้กมาวางประกบกันถึงเก้าชั้น แต่ละชั้นปาดดุลเซ เด เลเช ล้นทะลัก ชั้นบนสุดท็อปด้วยเมอแร็ง คนกลัวความหวานต้องขยาด แต่พอรับประทานจริงแพนเค้กได้ดูดซับความหวานไปเรียบร้อยแล้ว มีแต่ความกรุบกรอบกลมกล่อม ชิ้นเดียวไม่เคยพอ!

ใช่ว่าจะมีแต่อาหารอีกหนึ่งเครื่องดื่มชื่อดังของอาร์เจนตินาที่พลาดไม่ได้คือมาเต้ โกซิโด้ ชาร้อนที่ชงจากเยอร์บา มาเต้  ทำมาจากใบของต้น Ilex paraguariensis ที่เติบโตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอาร์เจนตินา โดยใบจะถูกนำไปตากแห้งและบดละเอียด ครัวเรือนกว่า 90% ของอาร์เจนตินาต้องมีเยอร์บา มาเต้ติดครัว และในช่วงหลัง เยอร์บา มาเต้ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก เนื่องจากมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่ไม่ใช่การมโนเอาเองแต่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ให้วิตามินบี1 และบี6 แก่ร่างกาย  ช่วยเสริมกระดูกให้แข็งแรง เพื่อนฝูงในสถานทูตเผยว่า สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยช่วงอ่านหนังสือสอบก็ได้เยอร์บา มาเต้นี่ล่ะ ที่ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า อ่านหนังสือได้ทั้งคืน 

แต่สุดยอดเครื่องดื่มที่ต้องจิบคู่กับอาหารอร่อยต้องยกให้ไวน์อาร์เจนตินาจาก Rutini Wines โรงบ่มชั้นนำด้านการผลิตไวน์ระดับพรีเมียม  และมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการปลูกองุ่นของประเทศ โดยเป็นหนึ่งในโรงบ่มไวน์แรก ๆ ที่เริ่มปลูกองุ่นใน พื้นที่หุบเขาอูโกตั้งแต่ปี 1925  ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำของโลก 

งานสาธิตการทำอาหารในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารอาร์เจนตินา ซึ่งเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างมรดกจากรากเหง้าของคนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินแม่มายาวนานหลายศตวรรษก่อนเข้าสู่ยุคอาณานิคม กับอิทธิพลจากคลื่นผู้อพยพชาวยุโรปที่หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ที่ส่วนใหญ่มาจากสเปน และอีกระลอกในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากหลากหลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลีและเยอรมนี รวมทั้งผู้อพยพจากตะวันออกกลาง การสาธิตทำอาหารครั้งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การย้ายถิ่นดังที่ว่า เช่น อาหารอาร์เจนตินาใช้มะเขือเทศมากเหมือนกับอาหารสเปนและอิตาลี หรือเครื่องเทศที่ใช้ดมแล้วชวนให้คิดถึงอาหารอินเดีย! 

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า อาหารมิได้มีแค่ตาดู จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือเครื่องมือให้มนุษย์ได้รู้จักกันและกัน 

• ปาตริเซีย กูร์ตัวส์ แบรนด์แอมบาสเดอร์อาร์เจนตินา

 ปาตริเซีย กูร์ตัวส์ เป็นเชฟชาวอาร์เจนตินาที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี  ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านการทำอาหารที่เน้นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นและความยั่งยืน โดยมีวิธีการทำงานที่เน้นลงพื้นที่จริง และเรียนรู้จากผู้ผลิตในท้องถิ่น ฟื้นฟูสูตรอาหารดั้งเดิม ส่งเสริมบทบาทในครัวของสตรี และผลักดันวิถีปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ในปี 2023 เชฟ ปาตริเซียได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ทูตแบรนด์ประเทศอาร์เจนตินา” จากผลงานด้านการสนับสนุนอาหารที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชาติและส่งเสริมขนบธรรมเนียมของอาร์เจนตินาให้เป็นที่รู้จัก ในปี 2024 เธอยังได้รับการกล่าวถึงในมิชลินไกด์ในฐานะ Executive Chef แห่งร้าน Cinco Suelos Cocina de Finca 

นอกจากนี้ ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เธอได้มุ่งทำงานทางด้าน ‘Enogastroturismo’ หรือการท่องเที่ยวเชิงไวน์และอาหาร โดยรังสรรค์ประสบการณ์ที่ผสานทั้งภูมิทัศน์ ไวน์ และรสชาติอาหารเข้าด้วยกัน และในช่วงเวลาดังกล่าว เชฟปาตริเซียยังได้ทำงานร่วมกับโรงบ่มไวน์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งจากจังหวัดต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ของอาร์เจนตินา เช่น เมนโดซา ซัลตา และกอร์โดบา