'จีน' เตรียมจำกัดส่งออกแร่เงิน มีผล 1 ม.ค. 69 จับตาราคาอาจพุ่งอีกครั้ง
'จีน' เตรียมจำกัดส่งออกแร่เงิน มีผล 1 ม.ค. 69 แม้ไม่ใช่มาตรการใหม่ แต่ถือเป็นแร่ที่มีความสำคัญในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมกลาโหม ปี 2569 ต้องจับตาราคาแร่เงิน อาจพุ่งอีกครั้ง
จีน เตรียมควบคุม ส่งออกแร่เงิน เข้มงวดมากขึ้น ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (1 ม.ค.) เป็นต้นไป ขยายการจำกัด แร่โลหะ ที่เคยเป็นแร่ธรรมดา แต่สำคัญต่ออุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานด้านกลาโหมของสหรัฐ
อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลา วิจารณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในโซเชียลมีเดีย X ตอบโต้มาตรการจำกัดที่กำลังจะมีผลบังคับใช้
“นี่ไม่ดีเลย เงินเป็นวัสดุที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการอุตสาหกรรมมากมาย” มัสก์ ระบุในโพสต์
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ กระทรวงพาณิชย์จีน ประกาศมาตรการใหม่ครั้งแรกในเดือน ต.ค. เพื่อเสริมแกร่งการกำกับดูแลแร่หายาก ในวันเดียวกันนั้นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกันในเกาหลีใต้ ในตอนนั้นปักกิ่งได้ตกลงระงับการควบคุมส่งออกแร่หายากเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่สหรัฐก็ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จีนได้เผยรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุมัติส่งออกแร่เงินภายใต้มาตรการใหม่ในปี 2026 และปี 2027 โดยกฎระเบียบใหม่ในปี 2026 ยังจำกัดการส่งออกทังสเตนและแอนติโมนี ซึ่งเป็นวัสดุที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของจีนเป็นส่วนใหญ่ และใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมกลาโหมและเทคโนโลยีขั้นสูง
แม้ว่าจีนจะไม่ได้ประกาศห้ามส่งออกแร่เงินอย่างเด็ดขาด แต่สื่อรัฐบาล Securities Times รายงานเมื่อวันอังคาร (30 ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าววงในบอกว่า นโยบายใหม่นี้ได้ยกระดับโลหะเงินจากสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปไปเป็นวัสดุเชิงยุทธศาสตร์ ทำให้การควบคุมการส่งออกอยู่ในระดับเดียวกับแร่หายาก
จากการสำรวจอย่างเร่งด่วนในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหอการค้าสหภาพยุโรปในจีนพบว่า สมาชิกส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ หรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการควบคุมการส่งออกแร่ต่างๆ ของจีน
สหรัฐได้เพิ่มแร่เงินลงในรายชื่อแร่ธาตุสำคัญของประเทศในเดือน พ.ย. โดยอ้างถึงการใช้งานแร่ในวงจรไฟฟ้า แบตเตอรี่ เซลล์แสงอาทิตย์ และเครื่องมือทางการแพทย์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
รายงานวิเคราะห์ชิ้นหนึ่งของสหรัฐระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแร่เงินรายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2024 และแหล่งสำรองแร่เงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย
ข้อมูลจาก Wind Information อ้างอิงตัวเลขทางการ ระบุว่า จีนส่งออกแร่เงินมากกว่า 4,600 ตันในช่วง 11 เดือนแรกของปี ซึ่งมากกว่าการนำเข้าประมาณ 220 ตันในช่วงเวลาเดียวกันอย่างมาก
จับตาราคาแร่เงินปี 69 ต่อเนื่อง
มาตรการจำกัดเกี่ยวกับแร่เงินเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสนใจในโลหะชนิดนี้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
มีรายงานว่าโรงงานจีนติดต่อโรงงานแร่เงินแคนาดา Kuya Silver เมื่อวันศุกร์ (26 ธ.ค.) พร้อมเสนอราคาซื้อสูงกว่าราคาตลาด 8 ดอลลาร์ ขณะที่ผู้ซื้อจากอินเดียเสนอราคาสูงกว่าราคาตลาด 10 ดอลลาร์
สำนักข่าวออนไลน์สายอนุรักษ์นิยมอย่าง The Free Press ได้ตีพิมพ์บทความของศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ไทเลอร์ โคเวน จากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ระบุว่า การพุ่งขึ้นของราคาแร่เงินและทองคำ สะท้อนให้เห็นถึงการที่นักลงทุนหันเหออกจากดอลลาร์สหรัฐ
โคเวนกล่าวว่าการพุ่งขึ้นของราคานี้เป็น “สัญญาณเตือนภัยสำหรับเศรษฐกิจ (สหรัฐ)”
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเกือบ 9.5% ในปี 2025 ซึ่งเป็นการลดลงที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017
ในทางตรงกันข้าม ราคาแร่เงิน กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และมีแนวโน้มว่าปีนี้ที่จะเป็นปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 เมื่อราคาแร่เงินพุ่งขึ้นเกือบ 470% และลดลงในวันพุธหลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยราคาสปอตซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 73 ดอลลาร์
ส่วน ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979
ขณะที่บิตคอยน์ ที่บางครั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกแทนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้นั้น มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 88,000 ดอลลาร์ในเช้าวันพุธ (31 ธ.ค.) ตามเวลาปักกิ่ง และราคาลดลงมากกว่า 5% ในปีนี้